ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11

คว้ามาตรฐานความปลอดภัย ASEAN NCAP 2021 ระดับ 5 ดาว

 

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากการทดสอบการชนของ ASEAN NCAP 2021 ครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อวัดสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (New Car Assessment Program for Southeast Asia) หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 พร้อมกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดด้วยยอดจองกว่า 6,200 คัน ภายในระยะเวลาเกือบ 3 เดือนหลังเปิดตัว          

 

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยคะแนนรวม 83.47 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน จากหลักเกณฑ์การประเมินที่ประกอบด้วยการทดสอบการชนจากด้านหน้า การชนจากด้านข้าง และการประเมินเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย โดยได้รับคะแนนในส่วนการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection: AOP) สูงถึง 29.28 คะแนน จากคะแนนเต็ม 32 คะแนน การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) 46.72 คะแนน จากคะแนนเต็ม 51 คะแนน เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย (Safety Assist Technologies: SATs) 19.07 คะแนน จากคะแนนเต็ม 21 คะแนน และความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ (Motorcyclist Safety: MS) 8.32 คะแนน จากคะแนนเต็ม 16 คะแนน โดยฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ ได้แก่ รุ่น EL+ และรุ่น RS ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย

 

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ไอคอนของยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน ครอบคลุมทุกมิติความ  สปอร์ตพรีเมียม สมรรถนะทรงพลัง และเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยเหนือระดับ โดยในทุกรุ่นย่อยขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 17.2 กิโลเมตร/ลิตร และรองรับพลังงานทางเลือก E85 อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ใหม่ ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีฟังก์ชันการทำงานประกอบไปด้วย

- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

- ใหม่! ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)  

 

นอกจากนี้ ยังครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบ Auto Brake Hold ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ และถุงลม 6 ตำแหน่ง

และเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการสร้างสังคมการขับขี่ปลอดอุบัติเหตุให้ได้ภายในพ.ศ. 2593 (2050) ตามเป้าหมายฮอนด้าปี 2050 ฮอนด้าจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ พัฒนา และนำเสนอยนตรกรรมที่มีคุณภาพ ครบครันด้วยเทคโนโลยีด้านการขับขี่และด้านความปลอดภัย เพื่อมอบความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนบนโลกใบนี้ต่อไป