CP FOTON ฉลองครบรอบ 2 ปี
ด้วยยอดขายเติบโตกว่า 200% พร้อมเปิดตัวรถบรรทุก EV
บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถบรรทุกและรถบัส แบรนด์ “CP Foton” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยการร่วมทุนระหว่าง บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี กรุ๊ป) และ บริษัท โฟตอน มอเตอร์ จำกัด ผู้นำอันดับ 1 ด้านอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ต่อเนื่องถึง 16 ปีซ้อนจากประเทศจีน โดยได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 2 ปี และได้รับการตอบรับจากตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เมืองไทยเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นมากกว่า 200% จากปี 2563 นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ทำตัวเลขยอดขายทะลุ 300 คัน
คุณกฤษณะ เศรษฐธรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่งานฉลองครบรอบ 1 ปี ที่ ซีพี โฟตอน ได้เปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีระดับโลกเข้าสู่ตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก ทั้งรถบรรทุกและรถบัส ที่มีจุดเด่นในด้านความแข็งแกร่งที่ไม่เป็นรองคู่แข่งในตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ของเมืองไทย
แม้ในขณะนี้ประเทศของเราจะอยู่ในภาวะวิกฤติ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปในทุกภาคธุรกิจ แต่เรายังคงได้รับการตอบรับ และความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการในทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย และหน่วยงานราชการ ส่งผลให้ให้ยอดขายในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่ 2 ที่ ซีพี โฟตอน เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตขึ้นมากกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขยอดขายทะลุ 300 คันไปแล้ว
และในปีนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ ที่ ซีพี โฟตอน จะตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมรถเพื่อการพาณิชย์ ด้วยการเปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV) เป็นเจ้าแรกของเมืองไทย เพื่อเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมขนส่งในเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ประกอบการด้วยค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ
ทั้งนี้ทาง ซีพี โฟตอน จึงได้ถือโอกาสจัดงาน CP FOTON 2nd Anniversary “EVlution Go Beyond 2022” เพื่อฉลองครบรอบ 2 ปี อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีตัวแทนจำหน่าย 20 แห่ง ทั่วประเทศ ร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งเปิดตัวรถเพื่อการพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมกันถึง 5 รุ่น ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกของเมืองไทยที่นำรถเพื่อการพาณิชย์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเปิดตัว และทำการตลาดอย่างเป็นทางการ
โดยรถเพื่อการพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า ทั้ง 5 รุ่นของ ซีพี โฟตอน ประกอบด้วย
Truck Mate TM iBlue45
รถบรรทุก 4 ล้อ อเนกประสงค์ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจ SME และผู้ประกอบการขนส่งขนาดเล็ก มาพร้อมกับแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 44.9 กิโลวัตต์ วิ่งได้ไกลถึง 275 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงสุด 75 กิโลวัตต์ หรือ 100.5 แรงม้า
Aumark 4W iBlue85
รถบรรทุก 4 ล้อ ขนาด 5.6 ตัน มาพร้อมกับแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 81.14 กิโลวัตต์ ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงสุดที่ 115 กิโลวัตต์ หรือ 154 แรงม้า วิ่งได้ไกลถึง 220 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เหมาะสำหรับธุรกิจขนส่งในเมือง
Aumark 6W iBlue165
รถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดกลาง 10.5 ตัน เป็นรถบรรทุกอเนกประสงค์ที่สามารถตอบโจทย์งานขนส่งได้หลากหลาย มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 162.28 กิโลวัตต์ ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงสุดที่ 160 กิโลวัตต์ หรือ 214.5 แรงม้า วิ่งได้ไกลถึง 220 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
Aumark 6W iBlue220
รถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดกลาง 12.5 ตัน ตอบโจทย์เหมาะสุดกับงานราชการ เช่น รถสุขาภิบาล รถกระเช้าซ่อมบำรุงหรือ รถกวาดดูดฝุ่น และอื่นๆ ด้วยขนาดแชสซีที่ยาวกว่า สามารถรองรับสมรรถนะการบรรทุกที่สูงกว่า พร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุสูงถึง 217.2 กิโลวัตต์ วิ่งได้ 200 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
Auman EST iBlue280
รถบรรทุก 10 ล้อ หัวลาก ขนาดใหญ่ น้ำหนักบรรทุก รวมน้ำหนักลากจูง 49 ตัน เหมาะสำหรับงานขนส่งตู้สินค้าขนาดใหญ่ มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 282 กิโลวัตต์ ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงถึง 360 กิโลวัตต์ หรือ 482 แรงม้า รับงานลากจูงได้ไกลกว่า 200 กม.
คุณกฤษณะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เรามีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจตรงนี้อย่างจริงจัง โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนางานในทุกด้านเพื่อให้สินค้า และบริการของ ซีพี โฟตอน ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด เราสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าของเรา ด้วยผลิตภัณฑ์ยานยนต์ระดับโลก ที่การันตีด้วยยอดขายกว่า 10 ล้านคันทั่วโลก พร้อมทั้งงานบริการหลังการขาย งานอะไหล่ และการขยายตัวแทนจำหน่าย ที่ปัจจุบันมีอยู่ 20 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในแบรนด์ ซีพี โฟตอน โดยที่ผ่านมาเราได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า และตัวแทนจำหน่าย ทั้งในส่วนของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และการบริการหลังการขาย เป็นอย่างดี นับต่อจากนี้ เราก็จะยังคงมุ่งมั่นและพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ ซีพี โฟตอน เป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภค รวมถึงจะเสริมการพัฒนางานบริการหลังการขาย ให้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการอย่างดีที่สุด”