เกรท วอลล์ มอเตอร์

ลงนามข้อตกลงซื้อโรงงานที่ประเทศบราซิล

ตอกย้ำความความพร้อมขยายธุรกิจสู่ตลาดอเมริกาใต้

 

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) และเดมเลอร์ เอจี (Daimler AG) ร่วมลงนามในข้อตกลงซื้อขายโรงงานอิเรซมาโพลิส (Iracemapolis) ในประเทศบราซิลอย่างเป็นทางการ โดยมีกำหนดส่งมอบโรงงานให้แล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี พ.ศ. 2564 ซึ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแผนที่จะปรับปรุงและพัฒนาโรงงานเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) และเป็นไปตามมาตรฐานโรงงานอื่น ๆ ทั่วโลกของบริษัท นับเป็นอีกการตอกย้ำความพร้อมในการขยายธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศบราซิลและภูมิภาคอเมริกาใต้

 

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจและฐานการผลิตรถยนต์ทั่วโลกภายใต้กลยุทธ์ โลกาภิวัตน์ (Globalization Strategy) อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เปิดโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ จ.ระยอง อย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นโรงงานผลิตแบบเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีนของบริษัท และถือเป็นศูนย์กลางการผลิต จำหน่าย และส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาของบริษัทในภูมิภาคอาเซียน ล่าสุด ผู้บริหารจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศจีน นำโดย นายเสียง จวิน เมิ่ง ประธานบริหาร และ นายเซี่ยง ซ่าง หลิว รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ระดับโลก ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมลงนามข้อตกลงในการซื้อขายโรงงานอิเรซมาโพลิส (Iracemapolis) ประเทศบราซิลอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทเดมเลอร์ เอจี ประเทศบราซิล ร่วมลงนาม ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทมีกำหนดส่งมอบโรงงานให้แล้วเสร็จภายในปลายปีนี้

 

นายเสียง จวิน เมิ่ง ประธานบริหาร ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยว่า “อเมริกาใต้เป็นอีกภูมิภาคหนึ่งที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านตลาดรถยนต์สูงไม่แพ้ภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ริเริ่มขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคนี้ โดยเริ่มจากประเทศชิลีเมื่อปี พ.ศ. 2550 ในฐานะแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนแบรนด์แรกที่เข้าไปทำตลาดในประเทศชิลี หลังจากประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากตลาดชิลี  การดำเนินการในครั้งนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการเดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ในทวีปอเมริกาใต้ ด้วยการลงนามข้อตกลงกับบริษัทเดมเลอร์ เอจี ประเทศบราซิล เพื่อซื้อขายโรงงานอิเรซมาโพลิส (Iracemapolis) ซึ่งบราซิลนับเป็นอีกหนึ่งประเทศสำคัญในภูมิภาคนี้ที่มีความแข็งแกร่งทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ลักษณะภูมิประเทศ และจำนวนประชากร และยังเป็น 1 ใน 7 ตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการเตรียมจัดตั้งโรงงานของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในประเทศบราซิล จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจที่บริษัทหมายมั่นและเชื่อว่าบราซิลจะเป็นอีกประเทศยุทธศาสตร์สำคัญในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอเมริกาใต้”

 

เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแผนที่จะปรับปรุงและพัฒนาโรงงานอิเรซมาโพลิส (Iracemapolis) ในประเทศบราซิลให้เป็นอีกหนึ่งโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ของบริษัทที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี ระบบการควบคุม รวมไปถึงระบบจัดการข้อมูลอันล้ำสมัย ควบคู่กับนวัตกรรมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั่วโลก โดยเมื่อมีการปรับปรุงและพัฒนาโรงงานเสร็จสิ้น โรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการผลิตแบบเต็มรูปแบบอยู่ที่ 100,000 คันต่อปี และคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานมากกว่า 2,000 ตำแหน่ง ให้กับคนในท้องที่ นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีแผนที่จะส่งเสริมการพัฒนาและบูรณาการด้านต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ท้องถิ่น ให้มีความก้าวหน้าและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศบราซิลด้วยเช่นกันปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีโรงงานผลิตรถยนต์กว่า 12+5 แห่ง ทั่วโลก โดยแบ่งเป็นโรงงานผลิตเต็มรูปแบบรวมทั้งสิ้น 12 แห่ง รวมถึงโรงงานแห่งล่าสุดที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย ซึ่งมีกำลังการผลิตเต็มกำลังอยู่ที่ 80,000 คันต่อปี นอกจากนี้ ยังมีโรงงานแบบ KD (Knock Down) อีก 5 แห่งนอกประเทศจีนในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งในมาเลเซีย เอกวาดอร์ ตูนิเซีย บัลแกเรีย และอิหร่าน โดยแต่ละโรงงานจะมีกำลังการผลิต เทคโนโลยีและความโดดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ในแต่ละประเภทสำหรับตลาดในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน นอกจากการตั้งฐานการผลิตในภูมิภาคสำคัญต่างๆ ทั่วโลกแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศ ทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาและพัฒนาเทคโนโลยีด้านยานยนต์ใหม่ ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการผลิตรถยนต์ให้ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

 

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนรายต้น ๆ ที่ประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศเป็นอย่างสูง โดยเริ่มส่งออกรถยนต์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 นำโดยรถยนต์เอสยูวีอย่างแบรนด์ HAVAL และรถยนต์จากแบรนด์ย่อยอื่น ๆ ของบริษัทไม่ว่าจะเป็น ORA แบรนด์รถไฟฟ้า GWM PICK UP แบรนด์รถกระบะ WEY แบรนด์รถยเอสยูวีพรีเมี่ยม รวมไปถึงแบรนด์ย่อยน้องใหม่ล่าสุดอย่าง TANK ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ดำเนินธุรกิจผ่าน 500 เครือข่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ทั้ง รัสเซีย แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย อเมริกากลาง อเมริกาใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งแม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก แต่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงมียอดขายรถยนต์จากทั่วโลกรวมสูงกว่า 700,000 คัน ในปีนี้ (อัพเดทข้อมูลถึงเดือนกรกฏาคม พ.ศ.2564) โดยเพิ่มขึ้นถึง 49.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และเป็นยอดขายจากตลาดต่างประเทศกว่า 74,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 176.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยยอดขายในต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วน 10.4% ของยอดขายโดยรวมทั้งหมด แสดงถึงศักยภาพของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกอย่างแท้จริง