Kaidee Auto ไตรมาสแรกรายได้โต 53%

เติบโตในทุกมิติของธุรกิจรถยนต์มือหนึ่งและรถยนต์มือสอง

 

Kaidee Auto (ขายดี ออโต้)  ผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์ซื้อขายรถยนต์มือหนึ่งและมือสอง ตอกย้ำความสำเร็จแผนกลยุทธ์ ด้วยผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด 53% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตในทุกมิติของธุรกิจรถยนต์มือหนึ่งและรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์ม มั่นใจเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจะสร้างแรงกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ปี 2565 เติบโตต่อเนื่องถึง  3 - 5 % สอดคล้องกับการเติบโตของ Kaidee Auto ที่พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือหนึ่งและมือสอง เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย

 

นายโฮเซน ราฟัตเนจาด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ Kaidee เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของ Kaidee Auto เป็นไปในทิศทางบวกทั้งในฝั่งธุรกิจรถยนต์มือหนึ่งและธุรกิจรถยนต์มือสอง ทำให้ผลประกอบการของ Kaidee Auto ในไตรมาสแรกปี 2565 เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 53% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของธุรกิจรถยนต์มือสองมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งภายใต้กลยุทธ์การขยายพื้นที่การบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยจำนวนพันธมิตรดีลเลอร์ที่อยู่นอกเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล โตขึ้น 130% ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ Kaidee Certified บริการตรวจสอบสภาพรถยนต์มือสองก่อนการซื้อโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Kaidee Auto เติบโตขึ้นถึง 40% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา  และจำนวนรถยนต์มือสองที่ขายผ่านแพลตฟอร์ม Kaidee Auto โตเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา อันเป็นผลจากการการพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ (UX) และรูปลักษณ์ที่สวยงามของแพลตฟอร์ม (UI)ที่ช่วยให้ผู้ขายลงขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ชื้อสามารถค้นหารถมือสอง เปรียบเทียบราคา ติดต่อสื่อสารกับผู้ขายได้อย่างสะดวกสบาย และใช้งานง่ายขึ้น

ในส่วนของธุรกิจรถยนต์มือหนึ่งมีการเติบโตขึ้นในทุกมิติ  อาทิ จำนวนว่าที่ลูกค้า (Lead Generations) ที่เพิ่มขึ้นถึง 64% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2564 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก กลยุทธ์ทางด้านการสื่อสารเต็มรูปแบบผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์  O2O  ที่ผนวกเข้ากับจำนวนฐานผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Kaidee ที่มีจำนวน 14 ล้านคนในแต่ละเดือน ทำให้เราสามารถทำการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้อย่างแม่นยำ และครองใจบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์มือหนึ่ง (OEM) ที่ให้ความไว้วางใจใน Kaidee Auto รวมถึงจำนวนพนักงานที่มีการเติบโตขึ้น 2 เท่า ทำให้ Kaidee Auto สามารถดำเนินงานตามแผนโซลูชันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  และจากเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ภาพรวมของตลาดรถยนต์ปี 2565 กลับมาคึกคักสามารถเติบโตถึง  3 - 5 % ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมของธุรกิจ Kaidee Auto ด้วยเช่นกัน เนื่องจากจะเกิดการหมุนเวียนสับเปลี่ยนทั้งรถยนต์มือหนึ่งและมือสองในระบบ  ช่วยผลักดันให้ Kaidee Auto ก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือหนึ่งและมือสองของไทยได้อย่างแน่นอน

“จุดแข็งของแพลตฟอร์ม Kaidee คือการเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค หรือ C2C ที่ใหญ่ที่สุดและอยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนานกว่าทศวรรษ ผนวกเข้ากับแผนกลยุทธ์ภายใต้การบริหารงานของกลุ่ม EMPG กลุ่มทุนผู้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสชั้นนำของโลก  จึงทำให้สามารถยกระดับแพลตฟอร์ม Kaidee Auto ไปสู่อีกขั้นได้ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และสร้างการเติบโตในทุกมิติของภาคธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในบริการสำคัญและถือเป็นบริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาของ Kaidee Auto คือ การขยายตลาดจากเดิมที่เป็นเพียงตลาดซื้อขายรถยนต์มือสอง สู่การจับมือเป็นพันธมิตรกับค่ายรถแบรนด์ดังและดีลเลอร์รถยนต์จำนวนมากในการเปิดตลาดซื้อขายรถยนต์มือหนึ่ง พร้อมทั้งการเปิดให้บริการด้านโซลูชันและการทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ร่วมกัน ส่งผลให้ Kaidee Auto เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์รถยนต์มือหนึ่งและมือสองที่ครบวงจร และพร้อมขยายโอกาสสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ สู่เป้าหมายในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนธุรกิจและผู้ประกอบการไทยเติบโตธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน” นายโฮเซน กล่าวสรุป