นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่
ท้าพิสูจน์พลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าจากเหนือสู่อีสาน
นิสสันจัดทริปพิเศษนำทีมสื่อมวลชนร่วมทดสอบ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ขับขี่ทางไกลกว่า 2,000 กิโลเมตร ในเส้นทางสุดพิเศษจากเหนือสู่อีสาน เลียบตะเข็บชายแดนในแนวแม่น้ำโขงระหว่างไทย-ลาว ผ่านภูมิประเทศ และเส้นทางที่หลากหลาย ตลอดเส้นทางจะได้ชมธรรรมชาติและบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ยังได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจ กับเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น 2 อันทรงพลัง ตอบสนองทันใจ ขับสนุก ให้อารมณ์เดียวกับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟ พร้อมแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับลูกค้าสำหรับขับตามเส้นทางขับสนุกต้อนรับช่วงหน้าเทศกาลนี้
กิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “KICKS WayCation ที่ไหนก็ได้... ทางไหนก็ได้” ผ่านการขับขี่สไตล์ท่องเที่ยว แบบใช้งานจริง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ รวมถึงผู้ที่สนใจการใช้งานที่สามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะใช้งานในเมือง หรือเดินทางไกล โดยไร้กังวล และไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถ
กิจกรรมนี้เป็นการเดินทางไกลกว่า 2,000 กิโลเมตรผ่าน 12 จังหวัดในภาคเหนือและภาคอีสาน โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรก จากจังหวัดเชียงราย ผ่านจังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก ระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร ช่วงที่สอง จากพิษณุโลก ไปยังจังหวัดเลย หนองคาย และอุดรธานี ระยะทาง 600 กิโลเมตร และช่วงสุดท้ายจากอุดรธานี ผ่านจังหวัด สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี ระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร
อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ในทริปนี้ เราต้องการให้ทุกคนได้สัมผัสกับเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ด้วยตนเองว่าขับสนุกและวางใจได้ ไม่ว่าจะขับขึ้นเขา ลงเขาก็มั่นใจกับอัตราเร่งและตอบสนองดีเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า และยังปลอดภัย นั่งสบายตลอดเส้นทาง ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องการหาจุดชาร์จไฟ จึงมีอิสระสามารถเดินทางไปได้ทุกที่”
“การเลือกเส้นทางขับขี่ในระยะทางไกล ทำให้ผู้ร่วมทริปมีโอกาสทดสอบฟังก์ชันการใช้งานของรถได้อย่างครบถ้วน ในหลากหลายสถานการณ์ ทั้งการขับขี่ในเมือง นอกเมือง ถนนคดเคี้ยว ลาดชัน ขึ้นลงเขา ไม่ว่าจะเส้นทางใด นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ก็พาทุกคนไปได้อย่างมั่นใจและสบายใจ วางใจได้กับเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ พร้อมทั้งได้ประสบการณ์ขับสนุก มั่นใจกับความปลอดภัย สะดวกสบาย สามารถชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามได้อย่างเต็มที่ และสัมผัสได้ถึง ประสบการณ์ใหม่ คันนี้ใช่เลยกับนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์” อิซาโอะ เซคิกุจิ กล่าว
ในแต่ละช่วงของการเดินทาง ผู้ร่วมทริปได้ลองใช้ทุกฟีเจอร์ เช่นในการขับขี่บนไฮเวย์นอกเมือง ได้ทดสอบอัตราเร่ง พละกำลังของเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ตอบสนองได้ทันใจ ด้วยกำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร (Nm) และด้วยวิศวกรรมยานยนต์ที่แม่นยำของนิสสัน รถยนต์รุ่นนี้สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจและมั่นคง แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ที่เพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้มีช่วงเวลา และระยะทางที่สามารถขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าได้นานยิ่งขึ้น ให้ความเงียบ เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตร DOHC ช่วยให้อัตราการสิ้นเปลืองที่ดียิ่งกว่าเดิม
นอกจากนี้ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ยังให้ประสบการณ์เหมือนกับขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เพราะเครื่องยนต์เดินเรียบ เงียบ ตอบสนองทันใจ ช่วยให้ขับขึ้นลงทางลาดชันได้สบาย ๆ และในขณะลงเขา ระบบจะฟื้นฟูพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่ (Regenerative Braking) ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า ขับขี่ตอบสนองและทันใจตลอดการเดินทางบนทุกช่วงภูเขาสูง
ช่วงที่ 1 จากเชียงรายสู่พิษณุโลก
จากภูชี้ฟ้า สู่จังหวัดน่าน และจังหวัดพิษณุโลก เป็นถนนที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ช่วยให้ผ่อนคลายจากการเดินทางยาวนานได้เป็นอย่างดี จนมาถึงช่วงทางขึ้นลงเขาที่ลาดชัน และทางคดเคี้ยวของโค้งเลข 3 จังหวัดน่าน ที่มองจากมุมสูงจะเห็นถนนคดเคี้ยวเป็นเลข 3 ยังได้ทดลองประสิทธิภาพของระบบ อี-เพดดัล สเต็ป (e-Pedal Step) ในโหมด สปอร์ต (Sport) และ อีโค (Eco) ได้อย่างเต็มที่ ทำให้การขับขี่ง่าย สะดวกยิ่งขึ้นด้วยการใช้แป้นคันเร่งเพียงแป้นเดียวในการควบคุม โดยเมื่อยกเท้าขึ้นจากคันเร่ง รถจะชะลอความเร็วลงอย่างนุ่มนวล และคงปล่อยไหลไปได้อย่างต่อเนื่องในย่านความเร็วต่ำ ไม่ต้องเหยียบเบรก ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในเส้นทางที่คดเคี้ยว ที่ต้องมีการชะลอความเร็วอยู่บ่อยครั้ง
ช่วงที่ 2 จากพิษณุโลกสู่อุดรธานี
เส้นทางช่วงที่สอง จากพิษณุโลก มุ่งสู่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และไปจบที่จังหวัดอุดรธานี เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมทริปได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายริมโขง ในบรรยากาศปลายฝนต้นหนาว พร้อมเช็คอินจุดท่องเที่ยวสุดชิคยอดนิยมของคนรักการเดินทาง และหนึ่งในไฮไลท์ของการเดินทางคือ ภูเก้าง้อม จุดเช็คอินแห่งใหม่ของ อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ที่นักเดินทางไม่ควรพลาด ซึ่งตลอดเส้นทางมีเส้นทางขึ้นและลงไปตามสภาพภูเขาสูงชันที่มีความคดเคี้ยวเหมือนเลข ๙ ท้าทายกับโค้งหักศอกหลากหลายรูปแบบ ที่ผู้ขับขี่ได้ทดสอบสมรรถนะของเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์อย่างเต็มที่ การเดินทางในวันแรกสิ้นสุดลงที่อ.เชียงคาน เมืองเล็กริมโขงที่มีเสน่ห์ ด้วยการเดินทางสบาย ๆ ในนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ทำให้ผู้ร่วมเดินทางยังมีเวลาที่ออกไปชมวิวก่อนที่แสงสุดท้ายจะลับขอบฟ้า ถ่ายรูปกับเมืองเล็ก ๆ ริมแม่น้ำโขง และสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนริมน้ำที่ทอดยาวระหว่างไทยกับลาว
การเดินทางในวันที่สอง จากตัวเมืองจังหวัดอุดรธานี มุ่งหน้าสู่สกลนคร ทางอำเภอนาแก ช่วงนี้เป็นการขับขี่ทางราบ จึงได้สัมผัสถึงความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่ออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ กว้างขวาง ไม่อึดอัด นั่งสบาย คันเกียร์ไฟฟ้าดีไซน์ใหม่ ให้ความรู้สึกถึงความทันสมัย ใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นิสสันยังใส่ใจกับส่วนที่ลูกค้ามีการใช้งานเป็นประจำ อาทิ ที่วางแก้วตอนหน้าใหม่ ที่สามารถรองรับแก้วเครื่องดื่มได้ทุกแบบและทุกขนาดที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งการออกแบบนี้เป็นผลมาจากการวิจัยความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงะบบอินโฟเทนเมนท์ นิสสันคอนเน็ค (NissanConnect) ให้รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android Auto** และ Apple CarPlay ให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันจากสมาร์ทโฟนผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วได้อย่างสะดวกสบาย เพิ่มความสุนทรีย์เข้ากับบรรยากาศตลอดเส้นทาง
ช่วงที่ 3 อุดรธานี-อุบลราชธานี
ช่วงสุดท้ายของทริปนี้ เริ่มต้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นจังหวัดที่กำลังได้รับความสนใจในปัจจุบัน ด้วยวิถีชีวิต ที่เรียบง่าย ไม่เร่งรีบ มีเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ และแวะถ่ายภาพกับองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง จากนั้นเข้าพักที่ริมแม่น้ำโขงในจังหวัดมุกดาหาร เช้าวันรุ่งขึ้นเริ่มออกเดินทางไปยังจุดหมายสุดท้ายของทริป คือ ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะได้เห็นทัศนียภาพของจุดรับแสงอาทิตย์แรกของประเทศไทย โดยรูปแบบเส้นทางจากถนนราบในเมือง ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นขึ้นลงเขา และมีโค้งที่คดเคี้ยวเมื่อใกล้จุดหมาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ได้ใช้ อี-เพดดัล สเต็ปอย่างเต็มที่ ช่วยให้ขับขี่ได้สะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดเชื้อเพลิง และนับเป็นการสิ้นสุดการทดสอบในระยะทาง 2,000 กิโลเมตรได้อย่างประทับใจ
ไม่ว่าเส้นทางจะคดโค้ง ไต่ขึ้นสูง และลงเนินมากแค่ไหน นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ใหม่ ให้ความมั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยรอบคัน 360° Safety Shield ที่ปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เต็มที่ เช่น เทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง หรือ Lane Departure Warning (LDW) ที่จะส่งสัญญาณสั่นที่พวงมาลัยเตือนผู้ขับขี่เมื่อระบบตรวจจับได้ว่ารถกำลังเบี่ยงออกนอกเลนโดยที่ไม่มีการเปิดไฟเลี้ยว เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ หรือ Intelligent Cruise Control (ICC) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ หรือ Intelligent Emergency Braking (IEB) เทคโนโลยีเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ หรือ Intelligent Forward Collision Warning (IFCW) และ เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา หรือ Blind Spot Warning (BSW)
ไม่ว่าระยะทางจะไกล ใช้เวลาขับขี่หลายชั่วโมง แต่ผู้ขับและผู้โดยสารของนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ยังสามารถชื่นชมธรรมชาติสองข้างทาง และชมวิถีชีวิตสบายๆ ของคนในเมืองต่างๆ ตลอดเส้นทางได้แบบเต็มอิ่ม สำหรับผู้ที่สนใจหรือกำลังวางแผนขับรถเที่ยวเองเมื่อมีโอกาส นิสสันแบ่งปันเส้นทางการขับขี่ที่สวยงามจากภาคเหนือสุดสู่ตะวันออกสุดของประเทศ รวมถึงจุดเช็คอินและไฮไลต์ต่าง ๆ ให้ลูกค้าติดตามรายละเอียดได้จากช่องทางของสื่อออนไลน์ของนิสสัน ประเทศไทย Fanpage: Nissan Thailand ในเดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป
นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ใหม่ ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น E ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 759,000 บาท รุ่น V ราคา 829,000 บาท รุ่น VL ราคา 899,000 บาท และรุ่นตกแต่งพิเศษ AUTECH ราคา 949,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ AUTECH ที่เปิดตัวในประเทศไทย มีการตกแต่งพิเศษสไตล์สปอร์ต พรีเมียม อาทิ สีทูโทน หลังคาดำ มาพร้อมสีตัวถังภายนอกให้เลือกถึง 4 สี เสริมความสปอร์ต และหรูหราด้วยชุดสเกิร์ต สีเงินเมทัลลิค รอบคัน พร้อมตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์ AUTECH โดยลูกค้าที่สนใจสามารถทดลองขับและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากโชว์รูมของผู้จำหน่ายนิสสัน 174 แห่งทั่วประเทศ หรือคอลเซ็นเตอร์ 02 401 9600 หรือ https://www.nissan.co.th/