วอลโว่ ฉลองยอดขายเพิ่มขึ้น 71% ในปี 65
พร้อมเผยแผนการจำหน่ายเฉพาะรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบในปี 2025
วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมด้วยยอดขายที่โตขึ้นถึง 71% ในปี 2022 ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่นิยมใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของยอดขายในปีที่ผ่านมาทำให้วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เข้าใกล้เป้าหมายในการเป็นบริษัทรถยนต์ที่จะจำหน่ายเฉพาะรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบเท่านั้นในปี 2025
แม้จะมีข้อจำกัดด้านการผลิตเนื่องมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ในปีที่ผ่านมา แต่รถยนต์วอลโว่ยังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดีในประเทศไทย ด้วยยอดขายรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบทั้งในรุ่น C40 Recharge Pure Electric และ XC40 Recharge Pure Electric ที่เติบโตขึ้นถึง 190% ในปี 2022 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่มากกว่าหนึ่งในสามของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของบริษัทฯ
กลุ่มผลิตภัณฑ์ตระกูล Recharge Plug-in Hybrid ก็ยังคงได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นอย่างดี ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 24% ซึ่งคิดเป็น 64.8% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท โดยรุ่นที่ขายดีที่สุด ได้แก่รุ่น XC60 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid (22.7% ของยอดขาย), XC40 Recharge Pure Electric (22.2%), XC40 Recharge Ultimate T5 Plug-in Hybrid (14.7%), C40 Recharge Pure Electric (13%) และ V60 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid (9.1%)
เพื่อตอกย้ำถึงความสำเร็จในการดำเนินงานของบริษัทวอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เผยแผนการจัดจำหน่ายเฉพาะรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบในประเทศไทยในปี 2025 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของ วอลโว่ โกลบอล ถึง 5 ปี
มร. คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ดำเนินการจัดจำหน่ายรถวอลโว่ครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อ 50 ปีก่อน ด้วยคำมั่นสัญญาในการส่งมอบความปลอดภัยด้านการขับขี่ให้แก่คนไทย ในวาระโอกาสครบรอบ 50 ปี เราจะขยายคำมั่นสัญญาของเราให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านความปลอดภัยในการเดินทาง รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมและโลกที่เราอาศัยอยู่อย่างยั่งยืน เรามีความยินดีที่ได้รู้ว่าผู้บริโภคในประเทศไทยมีความกระตือรือร้นและสนใจเกี่ยวกับรถพลังงานไฟฟ้า และเรามั่นใจว่าความมุ่งมั่นของเราที่จะจำหน่ายเฉพาะรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบในปี 2025 จะประสบความสำเร็จ”
วอลโว่ยังคงแสดงถึงเจตนารมณ์ในการนำเสนอพลังงานสะอาดเพื่อนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยนำร่องเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ณ ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายสี่แห่ง เพื่อช่วยลดอัตราค่าไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวแคมเปญ “Live Life Better with Volvo” เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนหันมาใส่ใจ สุขภาพและสิ่งแวดล้อม สร้างจิตสำนึกรักษ์โลกและตอกย้ำความสำคัญของการใช้ชีวิตบนความยั่งยืน ผ่านกิจกรรมที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติทั้งในแบบ outdoor อย่างการปั่นจักรยาน และการวิ่งเทรล รวมถึงกิจกรรม indoor ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ณ Volvo Studio Bangkok แบรนด์ เอ็กซ์พิเรี่ยน เซ็นเตอร์ แห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกิจกรรมเหล่านี้จะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2023
“เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตรถไฟฟ้าระดับพรีเมียม และทำตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่างน้อยปีละหนึ่งรุ่น ในปี 2023 นี้ เราจะเปิดตัวรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบทั้งหมดถึงสองรุ่น ซึ่งทั้งสองรุ่นไม่เพียงจะมายกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า แต่ยังถูกออกแบบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน พร้อมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรเพื่ออนาคต และก้าวสู่เป้าหมายในการเป็นแบรนด์ที่จะผลิตและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าเท่านั้นในปี 2025”
“วอลโว่ยังคงเดินหน้าสานต่อวิสัยทัศน์ในการสร้างยานยนต์แห่งอนาคตที่จะมาพร้อมระบบความปลอดภัยในการขับขี่ที่เหนือกว่า เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการมากยิ่งขึ้น ให้ความอิสระ และความอุ่นใจในทุกครั้งที่อยู่ในรถวอลโว่” มร. คริสกล่าวเสริม
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับวอลโว่ได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th หรือhttp://www.facebook.com/volvocarsth หรือเยี่ยมชม Volvo Studio Bangkok ได้ที่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลโว่