2021 อัพเดท

“พงศ์เผ่าเจ้าสัวยานยนต์ไทย” Ep.10

 

“อภิชาติ ลีนุตพงษ์” ประธานกรรมการบริหาร ชาริช โฮลดิ้ง จำกัด “แบ่งปันความสุขผ่านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมไฮเทคฯ”

สังคมให้ฉายาคนในตระกูล ลีนุตพงษ์ มีสรรพนามนำหน้าว่า “เสี่ย” ตั้งแต่ยุคผู้ก่อตั้ง ยนตรกิจกรุ๊ป นั่นคือ เสี่ย เซี๊ยะ และ เสี่ยริ้ว จนมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 2 ก็ยังคงคำนำหน้าว่าเสี่ยไม่ว่าจะ เสี่ยเล็ก, เสี่ยสรวิศ, เสี่ยเชียร, เสี่ยเผ่า หรือ เสี่ยโบ๊ต และอีกหลายเสี่ยในตระกูลนี้

รวมไปถึง “เสี่ยย้ง-บรมกช ลีนุตพงษ์” ผู้พ่อของ “อภิชาติ” ทายาทคนโตในเจนฯ ที่ 3 ของลีนุตพงษ์ ที่ผมเคยเรียก “คุณนัท” ตั้งแต่เริ่มรู้จักในยุคปีเริ่มต้นของ “ดูคาติไทยแลนด์” สมัยโชว์รูมแรก ๆ อยู่ย่านทองหล่อ ซึ่งต้องขอเครดิตนิดนึงว่า พวกเราเองก็เคยเป็นที่ปรึกษา ประชาสัมพันธ์ให้กับดูคาติไทยแลนด์ในยุคของลีนุตพงษ์ยุคเริ่มต้นนะครับ ซึ่งขณะนั้นดูคาติยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นมียอดขายต่อปีในระดับหลักสิบคัน

มาถึงวันนี้ผมคงต้องขอเปลี่ยนสรรพนามนำหน้าจาก คุณนัท เป็น “เสี่ยนัท” ตามธรรมเนียมเรียกขานของคนในตระกูล “ลีนุตพงษ์” และก็ถึงเวลาที่จะต้องเชิญมาเขียนถึง ในฐานะที่อยู่ในสาระบบของ “ พงศ์เผ่าเจ้าสัวยานยนต์ไทยยุคปี 2021” ตามคอนเซ็ปท์ของคอลัมน์และคำว่าเสี่ยก็น่าจะเหมาะสมกับสถานภาพการกุมธุรกิจพันล้านรวมทั้ง วัยวุฒิอายุอานามเสี่ยนัทเองในปีนี้ก็น่าจะอยู่ที่ 46-47 ปีเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ที่มั่นคงพรั่งพร้อม

 

ประวัติด้านหน้าที่การงาน

ก่อนจะเริ่มธุรกิจดูคาติ เป็นส่วนตัวอย่างเต็มตัว เสี่ยนัทหลังจากจบ ป.ตรีที่จุฬาฯ ก็เริ่มต้นงานกับบีเอ็มดับเบิลยูยนตรกิจ ในยุคนั้น เพื่อบ่มเพาะประสบการณ์ ซึ่งอันที่จริงแล้ว เสี่ยนัทเองนั้นคุ้นเคย ชอบพอและอยู่กับตระกูลรถยนต์ได้รู้เห็นเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ โดยเฉพาะ บีเอ็มดับเบิลยูมาโดยตลอดตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งมีโอกาสไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา ได้มีโอกาสเชื่อมโยงคอนเนคชั่นกับดูคาติจนชอบพอและมั่นใจจึงลงทุนดำเนินกิจการดูคาติในประเทศไทยด้วยตัวเอง โดยแยกตัวออกมาจากกงสี เปิดดูคาติ ไทยแลนด์ในปี 2003 เป็นต้นมา

18 ปีของดูคาติไทยแลนด์ภายใต้บังเหียนของเสี่ยนัทจากยอดขายปีแรก 12 คันเป็น 80 คันในปีนั้น จากนั้นค่อยขยับเป็น 200 คันในปี 2010 และขึ้นเป็น 1,500 คันในปี 2012 ซึ่งเป็นปีที่ Ducati ประกอบในประเทศ และสูงสุด 3,000 คันในปี 2015 พร้อมเพิ่มแบรนด์ Royal Enfield จากอังกฤษ ซึ่งเริ่มต้นจากยอดขาย 0 คัน ไม่มีใครรู้จักแบรนด์ในปี 2017 จนยอดขายมากกว่า 3,000 คันในปี 2019 ปี สุดท้ายก่อนที่จะคืนแบรนด์ให้เขาตามข้อตกลงตั้งแต่แรกเช่นกัน

ปี 2017 เสี่ยนัทขยับเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายจักรยานยนต์ รอยัล เอนฟิลด์ จากอังกฤษ และประสบความสำเร็จสามารถสร้างแบรนด์และจัดจำหน่ายได้อย่างงดงาม ก้าวสำคัญในปี 2019 ดีลในธุรกิจจัดจำหน่าย ซูเปอร์คาร์ แบรนด์ลัมโบร์กินี จาก อิตาลี ซึ่งถือเป็นดีลสุดเซอร์ไพร์สในตลาดรถยนต์ซูเปอร์คาร์เมืองไทย และแบรนด์ Koenigsegg (เคอนิกเส็กก์) ไฮเปอร์คาร์ระดับโลกสัญชาติสวีเดน เป็นแบรนด์ในลำดับถัดมา

 

ปัจจุบันชาริช โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท นำเข้าและจัดจำหน่ายยานยนต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมล้ำสมัยด้วยความมุ่งมั่นเติมเต็มความสุขและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ เพื่อยกระดับชีวิตให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นภายใต้พันธกิจ “Advancing Life”

Sharich Holding (ชาริช โฮลดิ้ง) เป็นบริษัทที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก โดยดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายยานยนต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมล้ำสมัย ทำให้ผู้บริโภคในเมืองไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในเชิงจิตวิทยาด้านการสร้างความสุข และความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ และเชิงกายภาพด้วยการสร้างความสะดวกสบาย ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ ชาริช โฮลดิ้ง ในการทำให้ชีวิตมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น (Advancing Life) โดยประกอบไปด้วย

1. SHARISMA โดย Sharich Health ครั้งแรกของประเทศไทยกับ Super Supplement ศาสตร์แห่งรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ สู่นวัตกรรมการชะลอวัยระดับเซลล์

บริษัท ชาริช เฮลท์ จำกัด คือบริษัทในเครือชาริช โฮลดิ้ง ที่ก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจที่จะแบ่งปันสิ่งที่ดีที่สุดที่เราคัดสรรแล้ว ไปให้คุณ ครอบครัว และคนที่คุณรัก ด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ล้ำหน้าของโลกวันนี้ เพื่อให้ทุกคนได้มีความสุขกับการมีชีวิตที่ยืนยาวและการแบ่งปันที่ไม่รู้จบ

2. Koenigsegg ไฮเปอร์คาร์ระดับโลกสัญชาติสวีเดน

3. Lamborghini (ลัมโบร์กินี) ซูเปอร์สปอร์ตคาร์จากประเทศอิตาลี

4. NIU (นิว) Smart Electric Scooter อันดับหนึ่งของโลก

5. iRobot (ไอโรบอท) นวัตกรรมหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน อันดับ 1 จากสหรัฐอเมริกา

6. IQAir เครื่องกรองอากาศและเครื่องวัดคุณภาพอากาศประสิทธิภาพสูง

7. stylPro (สไตล์โปร) นวัตกรรมเครื่องล้างแปรงแต่งหน้าและปั่นแห้งเครื่องแรกของโลกจากประเทศอังกฤษ

“บริษัทเราก่อตั้งในปี 2548 ช่วงแรกยังไม่ใช่โฮลดิ้ง ดูเฉพาะ Ducati จนเริ่มบาลานซ์แต่ละแบรนด์ให้ยอดขายใกล้เคียงกันจึงตั้งเป็นโฮลดิ้ง ซึ่งที่มาของชื่อชาริชมาจากภรรยา (ม.ล. พลอยนภัส) เป็นอาจารย์ที่อักษรศาสตร์ จุฬาฯ เขาไม่ได้มองเรื่องความเป็นธุรกิจและทำมูลนิธิชื่อปันสุขขึ้นมา ตรงนั้นจึงเป็นที่มาว่า ถ้าคอนเซ็ปต์ของธุรกิจขายของไม่ได้คาดหวังเรื่องเงิน แต่หวังให้ผู้ใช้มีความสุข เราจึงคิดถึงคำว่า share หรือแบ่งปัน ส่วน rich ในที่นี่ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นความร่ำรวยความสุข หรือการแบ่งปันความสุข ดังนั้น เรามั่นใจในของที่เรานำเข้ามาทุกอย่าง เราไม่พูดว่าดีที่สุด แต่อยู่ในระดับที่เราใช้เองและมั่นใจว่าดีจริง” เสี่ยนัท เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสาร Forbes

 

คุณนัทหรือเสี่ยนัท อภิชาติ สมรสกับ “ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์”(ดิศกุล) ราชนิกุล-นักธุรกิจหญิงที่ได้ชื่อว่ารวยอู้ฟู่มากมายในเวลานี้ มีบุตรชาย 2 คน คนโตน้องธีและคนเล็กที่เพิ่งให้กำเนิดชื่อน้อง แทน คุณนัทหรือเสี่ยนัทในด้านครอบครัวแล้วจัดได้ว่าเป็นผู้ชายไทยที่แสนจะอบอุ่นและมีความเป็นแฟมิลีแมนอยู่ในระดับแถวหน้าของชายไทย

ว่ากันว่าการตัดสินใจ ส่งคืนดูคาติ สู่เจ้าของแบรนด์ หลังจากครอบครองและสร้างตลาดมากว่า 18 ปี ลงทุนไปมากกว่าพันล้านนั้น ก็มาจากครอบครัวเป็นหลัก เหตุผลง่าย ๆ สั้น ๆ ก็เพราะอยากมีเวลาให้กับครอบครัวทั้งภรรยาและลูก ๆ ซึ่งยังเล็ก (ปัจจุบันอยู่ในฐานะซามูไรพ่อลูกอ่อน บุตรชายคนเล็กน้องแทนเพิ่งถือกำเนิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021) นี่เอง

 

ทั้งนี้ก็เพราะว่า ดูคาติซูเปอร์ไบค์นั้นเป็นแบรนด์จักรยานยนต์ระดับท็อป ซึ่งต้องใช้สมาธิและควบคุมบนความเร็วสูง เพราะคุณนัทจะดูแลลูกค้าเองเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเวลามีกิจกรรม คุณนัทมักจะออกทริปไปกับลูกค้าด้วยทุกครั้ง การผันตัวไปทำธุรกิจที่ไม่เสี่ยงกับความเร็วบนอานสองล้อซูเปอร์ไบค์ ปรับตัวไปเน้น ต่อยอดธุรกิจทางด้านนวัตกรรมนำเข้าที่มีอยู่มาตั้งแต่ยุคที่ภรรยาเป็นผู้ริเริ่มไว้จะสวยงามกว่า เพราะคุณขวัญ ภรรยาขอร้อง การดูคาติจะทำให้เสี่ยนัทมีเวลาให้กับครอบครัวไม่มาก กอปรกับเสี่ยนัทเคยให้ทัศนะไว้ว่าไม่ว่าจะขายความสุขในผลิตภัณฑ์แบบไหนตนเองก็ต้องได้ใช้และได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายแบบมีความสุขด้วยเช่นกันจึงเป็นมูลเหตุให้เสี่ยนัทยอมวางมือจากโปรดักส์แรก และส่งต่อให้กับผู้ประกอบการรายใหม่

“Corporate Brand ของเราคือ Sustainable ไม่ใช่ไม่ขายของ หรือไม่ Aawareness แต่เรามีความเข้าใจในความพอเพียง เราทำในส่วนที่เราทำได้ ลูกค้าที่ใช้มีความสุขแบรนด์ต่าง ๆ พอใจกับสิ่งที่เราทำ พนักงานทุกคนอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัว ทุกคนมีความสุขที่ได้ทำงานที่นี่ ซึ่งเราต้องมีตัวเลขอยู่แล้ว เพราะไม่ได้ทำเล่น ๆ ตัวเลขเป็นเป้าหมายแรก แต่ไม่ใช่ต้อง Maximize Profit เราต้องอยู่ได้และมีกำไรแต่ไม่ใช่ต้องได้กำไรสูงสุด สิ่งที่เราคาดหวังคือ การรักษายอดขายให้บวกไปเรื่อย ๆ ”

จากบทสัมภาษณ์ที่ อภิชาติให้กับนิตยสาร Forbes Thailand ปี 2020 และนี่คือ พงษ์เผ่าเจ้าสัวยานยนต์ไทย 2021 กับอภิชาติ ลีนุตพงษ์ -คุณนัทหรือเสี่ยนัท ที่ผมรู้จักครับ

 

Cr ภาพ: กิตติเดช เจริญพร และ อินเทอร์เน็ต

วชิระ เรืองมาลัย :  เรียบเรียง