ครม. อนุมัติแพ็คเกจรถ EV

ลดราคา 70,000 - 150,000 บาทต่อคัน

 

กรณีของรถ EV หรือ รถไฟฟ้า จากที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ครม. เต็มคณะที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

วาระการประชุมที่สำคัญที่จะเข้าสู่การพิจารณา กระทรวงพลังงาน จะเสนอ มติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV ) ครั้งที่ 3/2564 และครั้งที่ 1/2565 ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รถอีวี หรือ รถ EV ทั้งระบบ โดยเฉพาะการสนับสนุน ผู้ใช้รถอีวีในประเทศ โดยแพ็กเกจที่บอร์ด EV จะมีการเสนอนั้นครอบคลุม ทั้งรถยนต์ รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติตามที่เสนอแล้ว

มาตรการแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ปี 2565-2568 ส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า 3 กลุ่ม คือ

1. เงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000-150,000 บาทต่อคัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน

2. ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8% เป็น 2% และรถกระบะเป็น 0%

3. ลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศและนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุด 40% สำหรับรถยนต์ถึงปี 2566

4. ยกเว้นอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศ (CKD) จำนวน 9 รายการ

อย่างไรก็ตามรถกระบะต้องผลิตในประเทศเท่านั้น จึงได้สิทธินี้ รถยนต์และรถจักรยานยนต์นำเข้าได้ แต่ปีที่ 3 ต้องผลิตในประเทศ โดยรัฐบาลกำหนดตามเป้าหมายการผลิตรถ EV ให้ได้ 30% ภายใน 2573

ทั้งนี้ ค่ายรถที่เข้าร่วมต้องรับเงื่อนไข ได้แก่ ผลิตชดเชยให้เท่ากับจำนวนที่นำเข้า CBU ช่วงปี 2565-2566 ในปี 2567 แต่ขยายเวลาได้ ถึงปี 2568 จะต้องผลิตในอัตราส่วน 1.5 เท่า (นำเข้า 1 คัน ผลิต 1.5 คัน) ผู้ใช้สิทธิ์จะผลิต BEV รุ่นใดก็ได้เพื่อชดเชย ยกเว้นรถที่มีราคาขายปลีกราคา 2-7 ล้านบาทต้องผลิตรุ่นเดียวกับที่นำเข้ามา

 

ที่มา-โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี