ส.อ.ท. เผยยอดขายรถยนต์เดือนกันยายน 39,048 คัน
ต่ำที่สุดใน 4 ปี เหตุไฟแนนซ์เข้มข้นการปล่อยสินเชื่อ
เพราะหนี้เสียรถยนต์สูงถึง 259,330 ล้าน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) เปิดเผยถึง ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนกันยายน 2567 มียอดทั้งสิ้น 39,048 คัน ต่ำที่สุดในรอบ 53 เดือน เมื่อเปรียบเทียบกับยอดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ลดลงร้อยละ 13.59 เนื่องจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ SM ยังคงอยู่ในระดับสูงที่สุด 208,575 ล้านบาท ส่วนหนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259,330 ล้านบาท
ในส่วนของเดือนกรกฎาคม 2567 ผลประกอบการในการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไทย ไตรมมาสสองปี 2567 โตเพียงร้อยละ 2.3 และคาดว่าตลอดปี 2567 จะเติบโตแค่ร้อยละ 2.7-2.7 เท่านั้น ทั้งนี้ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม ยังหดตัวร้อยละ 1.91 แสดงให้เห็นถึงรายได้กลุ่มคนทำงานยังคงไม่มีเสถียรภาพในการจับจ่ายใช้สอย และส่งผลต่อเนื่องถึงเดือนกันยายน 2567 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2566 ยอดลดลงร้อยละ 37.11
รถยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาป (ICE) มียอดขาย 11,633 คัน คิดเป็นร้อยละ 29.79 ของยอดขายทั้งหมด ทั้งนี้ลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 41.55
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) ยอดขาย 4,574 คัน เท่ากับร้อยละ 11.71 ของยอดทั้งหมด หากเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมายอดลดลงร้อยละ 33.53
รถยนต์ประเภทไฟฟ้าผสมเสียบปลั๊ก (PHEV) มียอดขาย 197 คันเท่ากับร้อยละ 0.21 ของยอดทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 166.22
รถยนต์ประเภทไฟฟ้าผสม (HEV) จำหน่าย 8,611 คัน คิดเป็นร้อยละ 15.66 ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งลดลงจากเดือนกันยายนของปี 2566 ร้อยละ 24.93
ส่วนของรถกระบะมียอดขาย 11,509 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ร้อยละ 39.97 รถ PPV มียอด 2,463 คันลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 41.76
สำหรับยอดขายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2567 รถยนต์มียอดขาย 438,659 คันลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 25.25 จำแนกได้ดังนี้
รถยนต์ มีจำนวน 262,490 คัน เท่ากับร้อยละ 59.84 คัน ลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 12.22
ทั้งนี้เมื่อเราจำแนกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ยอดขาย 117,878 คัน คิดเป็นร้อยละ 26.87 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 37.40
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) ยอดขาย 52,219 คัน เท่ากับร้อยละ 11.90 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 7.17
รถยนต์ประเภทไฟฟ้าผสมเสียบปลั๊ก (PHEV) ยอดขาย 1,653 คัน เท่ากับร้อยละ 0.36 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 0.38
รถยนต์ประเภทไฟฟ้าผสม (HEV) ยอดขาย 90,740 คัน คิดเป็นร้อยละ 20.69 ของยอดขายในช่วงเวลาเดียวกัน 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50.32
รถกระยะมียอดขาย 126,560 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว ร้อยละ 39.35 ส่วนรถ PPV มียอดจำนวน 26,944 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกัน 42.95 ประมาณการโดยรวมคิดว่ายอดขายในประเทศปีนี้ จะใกล้เคียงกับยอดขายปี 2539 คือ 589,126 คัน