ACAR ROAD TRIP BKK-SAPA
All New Mitsubishi Triton Double Cab Plus 2.4 Ultra
บทพิสูจน์ทางลุยกว่า 2 พันกว่ากิโลเมตร
โครงการขับรถท่องเที่ยวคาราวานรถยนต์ กรุงเทพฯ-ซาปา เวียดนาม กับการขับทดสอบสมรรถนะรถยนต์ มิตซูบิชิ ออลนิว ไทรทัน ของ A Car กับกิจกรรมพิเศษ A Car Road Trip BKK-SAPA ในวันนี้ผมมากับรุ่น Double Cab Plus 2.4 Ultra ขับสองยกสูง ระหว่างวันที่ 2-10 ธันวาคม 2566 เสร็จสิ้นไปด้วยความเรียบร้อย ผ่านเส้นทางหลากหลายรูปแบบ วิ่งข้าม 3 ประเทศ จากไทยสู่ลาว และเวียดนาม เป็นระยะทางไปกลับเกือบ 3,000 กิโลเมตร การใช้งานจริงในทุกรูปแบบการเดินทางรวมถึงกว่า 10 วันมีข้อมูลและภาพบรรยากาศที่เราเก็บมารายงานให้ได้รับทราบกันครับ
กรุงเทพฯ สู่น่าน จังหวัดตั้งต้นก่อนข้ามแดน
การเดินทางกว่า 10 ชั่วโมงกับระยะทางเกือบ 700 กิโลเมตร 2 ธันวาคม 2566 คณะของเราออกเดินทางกันตั้งแต่ 7.30 น. ผมประจำตำแหน่งคนขับใน All New Mitsubishi Triton Double Cab Plus 2.4 Ultra พาคณะเราผ่าน อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิษณุโลก แพร่ น่าน ได้อย่างผ่อนคลายนุ่มนวล สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง นุ่มเงียบ เรามีเวลาไปรอคณะใหญ่ที่น่าน 1คืนที่ตัวเมืองน่าน เวลาของคณะเราดีมาก เราถึงน่านก่อน 18.00 มีเวลาที่จะเฟ้นหา ร้านอาหารริมน้ำ นั่งชิวสำหรับ มื้อเย็นในคืนแรก
ดูเหมือนว่าหลาย ๆ คนจะชื่นชมในห้องโดยสารของ ออลนิว ไทรทัน เป็นพิเศษ เช่นเดียวกันผมเองก็ประทับใจ โดยเฉพาะความเงียบในห้องโดยสารนั้นเมื่อเทียบกับกระบะค่ายคู่แข่งขันในตลาดเวลานี้ ไทรทัน ชนะเลิศครับ นั่งสบาย นุ่ม เงียบผ่อนคลาย และให้อารมณ์การเดินทางที่ค่อนข้างสุนทรีย์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและภายในห้องโดยสารทันสมัยการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมและง่ายต่อการทำความคุ้นเคยใช้งาน เครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยม นำหน้าคู่แข่งไปอีก ขั้นหนึ่ง ก็แน่นอนครับเพราะไทรทันนับเป็นรถกระบะ โฉมใหม่ล่าสุดของปี 2023 นี้ในขณะที่คู่แข่งขันค่ายอื่นนั้น ยังเป็นโมเดลเดิม
การเดินทางจาก กรุงเทพฯ-น่าน 700 กิโลเมตรนั้น เป็นช่วงที่เราได้ทดลองพลังทางเรียบของ ไทรทันได้ดีที่สุดในทริปนี้ เพราะมีจังหวะให้ได้รีดสปีดของรถในช่วงทางหลวงยาว ๆ ได้หลายช่วงเดินทางทีเดียว อัตราเร่งของไทรทันไม่ได้หวือหวาจัดจ้าน แต่ขึ้นแบบนุ่มนวลแน่น ๆ เน้น ๆ สปีดปลายระดับ 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีให้เห็นครับเครื่องยนต์และเกียร์ทำงานผสานกันและตอบสนองได้ดีทีเดียว
ไทรทันพลัส ตัวนี้วาง เครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใหม่! เป็นเครื่องยนต์ที่ ได้รับการพัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงสุด 135กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบเทอร์โบแปรผัน VG Turbo ที่ช่วยในการควบคุมแรงดันอากาศให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์มอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้เต็มสมมรรถนะมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์)ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย เครื่องยนต์และเกียร์ใหม่ของไทรทัน ประสิทธิภาพจัดได้ว่าดีเยี่ยมทีเดียวครับ นิ่ง แน่น และสั่งได้เมื่อใจต้องการ
ข้ามแดน 3 ประเทศไทย-ลาว-เวียดนาม
ในวันที่ 4 ธันวาคม 2566 วันนี้ภารกิจขับยาว ผ่านลาวเข้าไปเวียดนามเลยครับ จากน่าน ข้ามชายแดน เข้าสู่ประเทศลาว โดยออกจากด่านห้วยโก๋น น่านที่อำเภอปัว ของประเทศไทย ผ่านแขวงอุดมไชยของลาวไปพักที่เมืองเบียนเบียนฟู
เส้นทางช่วงนี้แคบรถเยอะขับยาก ขับมุดโค้งตลอดเส้นทางผิวทางพัง ร่องหลุมเพียบ ถ้าเป็นรถปิกอัพ ช่วงล่างควรจะกระเด้งกระดอน แต่ไทรทันกลับนุ่ม และนิ่งมากครับ เส้นทางในลาว กับเวียดนามเหมือนและต่างกันครับคือทั้งสองประเทศนี่ ภูเขาเป็นภูเขาเลยครับ ใหญ่โตมาก เราต้องขับในสภาพเส้นทางไต่ภูเขา โค้งต่อโค้ง แต่สภาพภูมิประเทศสองข้างทางสวยงามมาก เมฆหมอกฟูฟ้อง ไปหมดไม่ต้องไปตามหาในเมืองไทยครับ ขับเส้นทางเขาในลาวในเวียดนามมาถึงฝั่งไทยต้องยอมรับเลยครับ ภูเขาบ้านเราดูลูกเล็กเป็นรุ่นหลานรุ่นเหลนไปเลย
วันนี้เราขับจากไทย ลาวทะลุเวียดนามไปแวะนอนเมืองเดียนเบียนฟูของเวียดนามเมืองในหุบเขา เราแวะพักรถกันที่นี่ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะต้องขับต่อไปซาปา ระยะทางไม่มากหรอกครับ ระดับ 300-400 กิโลเมตรต่อวัน แต่เราใช้เวลาในการขับค่อนข้างเยอะ เนื่องจากทำความเร็วได้ไม่มากไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระยะ 1 กิโลเมตรเราใช้เวลาขับกันประมาณ 3-4 นาทีเลยทีเดียวเนื่องจากสภาพเส้นทางที่ไม่ราบเรียบเหมือนถนนเมืองไทย ขรุขระหลุมบ่อขนมครกเยอะ ที่สำคัญคณะของเราเจอฝนอีกด้วย
ช่วงขับจากเมืองเดียนเบียนฟู ถึงซาปาคณะเรา เจอฝนตลอดทาง
ถนนลื่นขับยาก เลี้ยวแคบได้ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้ายแบบควบคุมด้วยเบรก (Active LSD)ให้ไปจับล้อหลังที่ลื่นไถล ทำงานได้ดีไม่มีเป๋ ไม่มีปัด โยนเข้าโค้งแรง ๆ ได้ มั่นใจว่า เอาอยู่แน่นอนครับ ไทรทันกลายเป็นรถขับสนุกคุมพวงมาลัยแม่นยำมันได้อารมณ์เหมือนแข่งแรลลีครอสทางฝนทางเปียกเลยครับต้องบอกว่า ประทับใจช่วงล่างที่ออกแบบมาดีอยู่ระดับหัว ๆ ในกลุ่มกระบะแหนบหลัง เครื่องยนต์ใหม่ วางตำแหน่งใหม่ กดต่ำลงเกียร์ 6 สปีดใหม่ มีรอบค้างพร้อมเร่งส่งแชสซีใหม่ใหญ่กว่า+เบา ทรงตัวบาลานซ์ดี เบรกหน้าดีส หลังดรัม แต่ขยันทำงานดีจุดยืดช๊อคอัพ ปีกนกบนล่าง หูแหนบใหม่หมดให้การเกาะถนนดีจริง ทั้งในความเร็วสูงขับบนผิวทาง แบบ Cross เจอฝนเปียกลื่น ขับแบบในทางแข่ง ตัดในโค้ง โยกลงข้างทางบ้าง แอบปีนขอบทางบ้าง ช่วงล่างนิ่งแน่น จนรู้สึกขับสนุกกะมันมาก
ช่วงล่างหน้า + หลัง ปรับเซตช๊อคอัพมาได้ดี ระยะยุบยืดเยี่ยม ได้ยาง Bridgestone อวบ ๆ ขนาดหน้ายาง 265 แก้ม 60 ขอบ 18 ช่วยทำให้รถนิ่งไม่มีย้วย มั่นใจได้โดยเฉพาะทางยาก ๆ ไทรทันเอาอยู่และขับได้สนุกมากครับ
ไทรทัน เจนเนอเรชั่นที่ 6 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแบบ เวิลด์พรีเมียร์ ไปเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวรถกระบะเป็นครั้งแรกในปี 2521 โดยในช่วง 45 ปีที่ผ่านมาได้ผลิตรถกระบะมาแล้วกว่า 5.6 ล้านคัน ครอบคลุมทั้งหมด 5 เจนเนอเรชั่น วางจำหน่ายใน 150ประเทศทั่วโลก จึงทำให้รถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทันนับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของบริษัทฯ โดย ออล-นิว ไทรทัน จะเป็นรถกระบะเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์สที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ปฏิวัติทุกอณู! พลิกโฉมทุกมิติ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ทั้งการพัฒนาเฟรมหรือโครงรถใหม่ แชสซีส์ใหม่ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure) ปฏิวัติทุกสิ่งให้เป็นไปได้
"All New Mitsubishi Triton Double Cab Plus 2.4 Ultra" ค่าตัว 1,027,00 0 บาท ตัวถังดีไซน์ใหม่! ใหญ่ขึ้น และแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมพร้อมเฟรมหรือโครงรถที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ให้ความแข็งแกร่งทนทานและอุ่นใจได้ในทุกเส้นทาง
เครื่องยนต์ใหม่! ให้ขุมพลังแรงเร็วเต็มสมรรถนะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เป็นเครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใหม่! ได้รับการพัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบเทอร์โบแปรผันVG Turbo ที่ช่วยในการควบคุมแรงดันอากาศให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์มอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้เต็มสมมรรถนะ
ออล-นิว ไทรทัน มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์)ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย
ช่วงล่างใหม่ มอบการขับขี่ที่นุ่มนวล เกาะถนนเป็นเลิศปลอดภัยยิ่งกว่าด้วยเสถียรภาพการทรงตัวและการควบคุมรถที่ดีเยี่ยม ระบบควบคุมการขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาให้เหนือชั้นมากยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์การขับขี่บนสภาพถนนทุกรูปแบบ
รูปลักษณ์ด้านหน้า โดดเด่นด้วยดีไซน์แข็งแกร่งโฉบเฉี่ยว พร้อมห้องโดยสารภายในที่กว้างขวางและตกแต่งอย่างมีสไตล์ รองรับการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการแบบอเนกประสงค์ยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายสุดพรีเมียมเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การใช้งานแบบรถส่วนตัวและการใช้งานเชิงพาณิชย์
ช่วงเวลาเกือบ 10 วันในการเดินทางกับ ออลนิว ไทรทัน พลัส จากกรุงเทพฯ สู่ซาปา เวียดนาม กับระยะทางรวม ๆ ไปกลับ เกือบ 3 พันกิโลเมตรในครั้งนี้ นับเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งถึงความแกร่งของรถปิกอัพที่สามารถอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ทีมงานได้อย่างสมบูรณ์แบบการเดินทางที่สนุกสนานกับการขับขี่ทุกรูปแบบ ที่ตัวรถสามารถตอบโจทย์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างน่าประทับใจ นับเป็นรถยนต์ ปิกอัพ ยุคใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างสุดประทับใจทีเดียวครับ