ตลาดรถยนต์เดือนเมษาชะลอตัว

ยอดขาย 46,738 คัน ลดลง 21.5%

 

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2567 ยอดขายตลาดรวม 46,738 คัน ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 17,288 คัน ลดลง 14.4% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 29,450 คัน ลดลง 25.1% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 17,689 คัน ลดลงถึง 34%  

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2567 มียอดขาย 46,738 คัน ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งมีการชะลอตัวที่ 14.4% ด้วยยอดขาย 17,288 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวเช่นกันที่ 25.1% ด้วยยอดขาย 29,450 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวลงมากที่สุด ด้วยยอดขาย 17,689 คัน ลดลงถึง 34% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 15,161 คัน คิดเป็นสัดส่วน 32.4% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ HEV เติบโตขึ้น 56% ด้วยยอดขาย 10,208 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 4,282 คัน ลดลง 4%

ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม มีแนวโน้มจะดีขึ้นจากเดือนเมษายน แต่ยังคงลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2567

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 46,738 คัน ลดลง 21.5 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,422 คัน ลดลง 0.7 % ส่วนแบ่งตลาด 41.6%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,856 คัน ลดลง 48.6 % ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า  5,743  คัน ลดลง 10.4% ส่วนแบ่งตลาด 12.3%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 17,288 คัน ลดลง 14.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,500  คัน ลดลง 24.5% ส่วนแบ่งตลาด 31.8%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า  3,442  คัน ลดลง 9% ส่วนแบ่งตลาด 19.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,665  คัน เพิ่มขึ้น 10.8% ส่วนแบ่งตลาด  9.6%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 29,450 คัน ลดลง 25.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,922  คัน เพิ่มขึ้น 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 47.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,856 คัน ลดลง 48.6% ส่วนแบ่งตลาด 23.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า  2,301 คัน ลดลง   12.4% ส่วนแบ่งตลาด  7.8%       

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 17,689 คัน ลดลง 34%

อันดับที่ 1 โตโยต้า   8,647 คัน ลดลง  15.6% ส่วนแบ่งตลาด 48.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,091 คัน ลดลง  48.7% ส่วนแบ่งตลาด 34.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,015 คัน ลดลง  29.8% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%

ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,622 คัน โตโยต้า 1,335 คัน - อีซูซุ 1,044 คัน – ฟอร์ด1,012 คัน – มิตซูบิชิ 192 คัน – นิสสัน 39 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 14,067 คัน ลดลง 35.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,312 คัน ลดลง 12.4% ส่วนแบ่งตลาด 52%

อันดับที่ 2 อีซูซุ   5,047 คัน ลดลง   50.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,003 คัน ลดลง   50.6 % ส่วนแบ่งตลาด 7.1%     

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2567

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 210,494 คัน ลดลง 23.9%

อันดับที่ 1 โตโยต้า  78,232 คัน ลดลง17.4%ส่วนแบ่งตลาด 37.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 31,300 คัน ลดลง  48.3%   ส่วนแบ่งตลาด 14.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า  30,847 คัน ลดลง 4.7% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 82,903 คัน ลดลง 15.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า  22,131 คัน ลดลง  37.4% ส่วนแบ่งตลาด 26.7%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า   17,640 คัน ลดลง   18.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.3%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ     6,619 คัน ลดลง    1.5% ส่วนแบ่งตลาด 8%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 127,591 คัน ลดลง 28.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า  56,101 คัน ลดลง    5.4% ส่วนแบ่งตลาด 44%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 31,300 คัน ลดลง   48.3% ส่วนแบ่งตลาด 24.5%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า  13,207 คัน เพิ่มขึ้น  22.3% ส่วนแบ่งตลาด  10.4%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 74,114 คัน ลดลง 42.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า   33,895 คัน ลดลง  31.6% ส่วนแบ่งตลาด  45.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 27,572 คัน ลดลง 50.2% ส่วนแบ่งตลาด 37.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 7,946 คัน ลดลง 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.7%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 13,436 คัน โตโยต้า 4,983 คัน - อีซูซุ 4,212 คัน – ฟอร์ด 3,151 คัน – มิตซูบิชิ 924 คัน – นิสสัน 166 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 60,678 คัน ลดลง 42.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 28,912 คัน ลดลง  29.3% ส่วนแบ่งตลาด 47.6%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 23,360 คัน ลดลง  50.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,795 คัน ลดลง  49.6% ส่วนแบ่งตลาด  7.9%