ตลาดรถ PPV มีแนวโน้มเดือดอีกระลอก
ผู้เล่นหลายค่ายปรับโฉมใหม่ลุย
ตลาดรถอเนกประสงค์ หรือ PPV (Pure Pick Up) รถกระบะดัดแปลง ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายน 2567 ปริมาณการขาย 74,114 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 42.2% ลำดับที่ 1 เป็นโตโยต้า จำนวน 33,895 คัน ลดลง 31.6% ลำดับสอง อีซูซุ 27,572 คัน ลดลง 50.2% ลำดับสาม ฟอร์ด 7,946 คัน ลดลง 42.9% เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าตลาดลำดับสอง ปรับโฉม อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ใหม่ โดยออกรุ่นท็อปมาใหม่ โดดเด่น ไฉไลมาก
นับเป็นการออกแบบครั้งใหม่ ที่พลิกโฉม MU-X ให้โดดเด่นสปอร์ต ผ่านเส้นลายที่มีความ ไดนามิค รอบคันจริง ๆ วันนี้อะคาร์นิวส์ ได้รวบรวมรถอเนกประสงค์ตัวท็อปในรุ่นมาเปรียบเทียบให้ผู้บริโภคได้ค้นหาข้อมูล เพื่อชั่งน้ำหนักก่อนการตัดสินใจ จะเป็นแฟนคลับค่ายไหน ตัวไหน ลองศึกษาข้อมูลก่อน โดยเรียงลำดับจากราคาน้อยกว่าไปหาราคาที่มากกว่า ส่วนใครจะเลือกรุ่นไหนก็คงแล้วแต่ความพึงพอใจ
NISSAN TERRA 2.3 VL 4WD 7AT SPORT
นิสสัน เทอร์ร่า สปอร์ต เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับทุกรูปแบบและสมาชิกในครอบครัว เสริมความสปอร์ตพรีเมียม มาพร้อมชุดตกแต่งด้วยวัสดุโทนสีดำรอบคัน ทั้งภายใน และภายนอก เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360° Safety Shield ให้ทุกการเดินทางสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย เสริมความสุนทรีย์ภาพและความเพลิดเพลินด้วยระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ และเครื่องเสียงระดับพรีเมียมจาก BOSE รอบคัน ตอบทุกนิยามของการใช้งานที่ “คันเดียวจบ ครบเกินคุ้ม”
นิสสัน เทอร์ร่า สปอร์ต มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง และประหยัดน้ำมัน ทั้งยังสามารถรองรับน้ำมันดีเซลได้ทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนจากสองล้อ (2H) เป็นโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อได้ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง การควบคุมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape แบบสปอร์ต ได้ปรับปรุงใหม่ให้สามารถควบคุมตัวรถได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัยมากขึ้น ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5 ลิงค์ (5-Link) ที่นุ่มนวล และลดความโคลงของตัวรถขณะเข้าโค้ง และการทรงตัวที่ดีและมั่นใจนี้จะทำให้ผู้ขับขี่และทุกคนในครอบครัวจึงเดินทางได้อย่างสบายใจ นิสสัน เทอร์ร่า สปอร์ต ใหม่ มีราคาจำหน่าย 1,555,000 บาท
MITSUBISHI PAJERO SPORT ELITE EDITION
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่! รุ่นปี 2024 เปิดตัววันที่ 18 มีนาคม 2567 ราคา 1,689,000 บาท มาพร้อมขุมกำลังใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power)” เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่ ทรงพลังและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 สร้างพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ ประสานการทำงานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว พร้อมโหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ Gravel, Mud/Snow, Sand, Rock ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมประหยัดน้ำมันกว่าเดิม
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition พร้อมเดินทางสู่จุดหมายในทุกสภาพอากาศและสภาพถนนทุกรูปแบบ ด้วยระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถปรับเข้าสู่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (4H Full-time) ได้ทันที แม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ทั้งยังมีโหมด 4HLc (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง) และ 4LLc (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ) รวมถึงโหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ Gravel สำหรับการขับขี่บนทางฝุ่น Mud/Snow สำหรับการขับขี่บนผิวทางที่ปกคลุมด้วยโคลนหรือหิมะ รวมถึงขณะที่ฝนตกซึ่งพื้นผิวถนนมีความลื่น Sand สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวทราย และ Rock สำหรับขับขี่บนผิวทางที่ขรุขระหรือพื้นผิวหิน
ISUZU MU-X RS
ISUZU MU-X RS รุ่นล่าสุด เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตที่เหนือกว่ากับการออกแบบครั้งใหม่ ของ THE PEAK OF RS DESIGN ที่พลิกโฉม MU-X ให้โดดเด่น และสปอร์ต ผ่านเส้นสายที่มีความ DYNAMIC รอบคันมาพร้อมสีสัน อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ดีไซน์ภายนอก ทรงพลังด้วยกระจังหน้าใหม่! BLACK DIAMOND GRILLE พร้อมสะท้อน ความพีคด้วยสัญลักษณ์ RS ด้วยวัสดุ Black Chrome โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade พร้อมผสานดีไซน์ สปอร์ตของชุดไฟท้ายด้วยเส้น Embrace Line สปอร์ตด้วยล้ออัลลอยใหม่ RS Design ขนาด 20 นิ้ว เพิ่มความสปอร์ตด้วย Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS เร้าใจด้วยชุดกันชนหน้าใหม่ แบบ Fighter Jet ดุดันพร้อม Air Curtain เพิ่ม ประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ ดีไซน์ใหม่ เร้าใจอารมณ์สปอร์ต กับสีใหม่ล่าสุด! EIGER GRAY Opaque และหลังคาดำ Black Roof พร้อมสัญลักษณ์ RS โดดเด่นเท่สะดุดตาด้วยสี LIME GREEN
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับการออกแบบครั้งใหม่ ด้วยโทนสีดำใหม่ พร้อมตกแต่งด้วย Matte Silver Garnish เพอร์เฟกต์ทุกองศา ด้วยเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตใหม่ นั่งสบายโอบรับสรีระ พร้อม โดดเด่น ด้วยการเดินด้ายสี LIME GREEN และสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ เร้าใจด้วยบรรยากาศภายใน Red Ambient Light คอนโซลสีดำดีไซน์ใหม่เหนือระดับทุกรายละเอียด ตกแต่งด้วย Matte Silver
ISUZU MU-X RS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,759,000 บาท
TOYOTA FORTUNER GR SPORT
TOYOTA FORTUNER GR-Sport เสริมภาพลักษณ์อันโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง สนุกสนานกับสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์แรงสุด 224 แรงม้า และช่วงล่างสปอร์ต เพื่ออรรถรสในการขับขี่ที่เหนือระดับในทุกเส้นทาง ศักดิ์ศรีผู้นำอย่างแท้จริง เปิดตัวเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 เติมความพิเศษเหนือระดับเพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ ให้กำลัง 224 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 20 แรงม้า) แรงบิด 550 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Autoแบบไร้สาย มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเตือนลมยางขับเคลื่อนเต็มกำลังด้วยช่วงล่าง Monotubeช่วยซับแรงสั่นสะเทือนเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ปลอดภัยทุกเส้นทางด้วย Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน –ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ พิเศษยิ่งกว่าด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง GR-Sport เช่น Smart Key - Push start GR - คันเร่งและเบรกอะลูมิเนียมแบบสปอร์ต – เบรกพร้อมคาลิปเปอร์สีแดง มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,969,000 บาท
FORD EVEREST PLATINUM
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม รุ่นย่อยใหม่ล่าสุด เปิดตัวเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่พัฒนาขึ้นด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่เหนือชั้น เรียบหรูตามแบบฉบับแพลทินัม มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter มอบพละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร แตกต่างด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหรา ตั้งแต่กระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซน์ใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทตินัม พร้อมตัวอักษร PLATINUM สีโครเมียม 3 ตำแหน่งบนฝากระโปรงหน้า บานประตูคู่หน้า และฝาท้าย หลังคาสีดำ (Black Roof) ตราสัญลักษณ์ วี 6 โดดเด่นบนช่องระบายอากาศด้านข้างตัวถัง และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 275/45 R21 สะท้อนถึงความสปอร์ตและหรูหรา พร้อมระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถ เมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในตอนกลางคืน
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง หรูหรา สะดวกสบาย เบาะหนังสีดำตกแต่งโลโก้ซิกเนเจอร์ PLATINUM เป็นเอกลักษณ์ เบาะนั่งคนขับและเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบปรับอากาศและระบบบันทึกตำแหน่งเบาะที่นั่ง เบาะนั่ง 2 แถวหน้ามีชุดทำความร้อนและระบายอากาศที่ควบคุมได้ผ่านหน้าจอ SYNC และยังมีฟังก์ชันการปรับตำแหน่งเบาะที่นั่งให้เข้าออกสะดวกสำหรับเบาะนั่งคนขับ (Easy Entry and Exit) รวมถึงระบบเสียง Bang & Olufsen® ลำโพง 12 ตำแหน่ง พร้อมซับวูฟเฟอร์ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหาความเป็นเลิศในการใช้ชีวิตขณะที่ยังคงแสวงหาการผจญภัย ด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีเหนือชั้น พร้อมดีไซน์ที่เน้นความเท่ ดุดัน เรียบหรู โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม วี 6 จะจำหน่ายในราคา 2,279,000 บาท และมีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก สีเทา เมทิเออร์ เกรย์ สีดำ แอบโซลูท แบล็ค สีน้ำตาล อีควิน็อคซ์ บรอนซ์ และสีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล