ตลาดรถยนต์ไตรมาสแรกเติบโตช้า
ยอดขายรวม 1.6 แสนคัน ลดลง 24.6%
สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม ปี 2567 ด้วยยอดขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,342 คัน ลดลง 25.1% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 33,757 คัน ลดลง 32.6% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 19,648 คัน ลดลง 45.5%
ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม 2567 มีปริมาณการขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายที่ลดลง เป็นผลมาจากการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของภาคเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลให้กำลังซื้อยังคงจำกัด และควบคู่ไปกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 25.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 32.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน HEV มียอดขาย 12,689 คัน เพิ่มขึ้น 68.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ดันตลาด xEV เดือนมีนาคมเติบโตขึ้น 19.5% ในส่วนของ BEV ยอดขายเดือนมีนาคมอยู่ที่ 5,167 คัน เติบโตลดลง 25.6% และ PHEV ยอดขาย 897 คัน เติบโตลดลง 27.1%
ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เนื่องจากกระแสการท่องเที่ยวในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ และถือเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และรวมถึงการเริ่มส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่จองในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เป็นปัจจัยบวกและเริ่มส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมีนาคม 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,582 คัน ลดลง 16.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,861 คัน ลดลง 48.3 % ส่วนแบ่งตลาด 15.8%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 8,219 คัน ลดลง 19.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,342 คัน ลดลง 25.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,606 คัน ลดลง 33.6% ส่วนแบ่งตลาด 29.6%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,869 คัน ลดลง 31% ส่วนแบ่งตลาด 21.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,039 คัน เพิ่มขึ้น 14% ส่วนแบ่งตลาด 9.1%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 33,757 คัน ลดลง 32.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,976 คัน ลดลง 5% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,861 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด 26.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,350 คัน เพิ่มขึ้น 7% ส่วนแบ่งตลาด 9.9%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 19,648 คัน ลดลง 45.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,629 คัน ลดลง 34.1% ส่วนแบ่งตลาด 43.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 7,865 คัน ลดลง 50.4% ส่วนแบ่งตลาด 40%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,744 คัน ลดลง 57.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.9%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,436 คัน โตโยต้า 1,262 คัน - อีซูซุ 1,160 คัน –ฟอร์ด 682 คัน –มิตซูบิชิ 298 คัน – นิสสัน 34 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 16,212 คัน ลดลง 45.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,367 คัน ลดลง 31.5% ส่วนแบ่งตลาด 45.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,705 คัน ลดลง 50.4% ส่วนแบ่งตลาด 41.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,062 คัน ลดลง 63.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2567
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 163,756 คัน ลดลง 24.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 58,810 คัน ลดลง 21.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 25,104 คัน ลดลง 3.3% ส่วนแบ่งตลาด 15.3%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 24,444 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 65,615 คัน ลดลง 15.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,631 คัน ลดลง 40.8% ส่วนแบ่งตลาด 25.3%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 14,198 คัน ลดลง 20.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 4,954 คัน ลดลง 5.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.6%
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 98,141 คัน ลดลง 29.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 42,179 คัน ลดลง 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 43%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 24,444 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 24.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 10,906 คัน เพิ่มขึ้น 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 11.1%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 56,425 คัน ลดลง 44.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 25,248 คัน ลดลง 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 21,481 คัน ลดลง 50.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 5,931 คัน ลดลง 46.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 9,814 คัน โตโยต้า 3,648 คัน - อีซูซุ 3,168 คัน – ฟอร์ด 2,139 คัน – มิตซูบิชิ 732 คัน – นิสสัน 127 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 46,611 คัน ลดลง 44%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,600 คัน ลดลง 33.6% ส่วนแบ่งตลาด 46.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 18,313 คัน ลดลง 50.9% ส่วนแบ่งตลาด 39.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,792 คัน ลดลง 49.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%