New Toyota Corolla Cross 2024

โดยคงราคาขายเท่าเดิม

 

นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ยอดนิยม เพื่อนำเสนอประสบการณ์การขับเคลื่อนที่มาพร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชันอำนวยความสะดวก มุ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ กับ “โคโรลล่า ครอส ใหม่” เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ลาน Eden ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

 

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ SUV รุ่น “โคโรลล่า ครอส” ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย เมื่อพ.ศ. 2563 โดยเป็นรถที่ได้รับการออกแบบภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และมีความแข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารเพียบพร้อมด้วยพื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบายพร้อมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระ ที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย ซึ่งนับตั้งแต่การแนะนำโคโรลล่า ครอสนั้น ถือเป็นรถรุ่นที่ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดีเสมอมา ด้วยยอดขายสะสมที่ 71,160 คัน ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม ปี 2563 ถึง เดือน ธันวาคม ปี 2566

สำหรับโคโรลล่า ครอสใหม่ ได้มีการปรับปรุงในทุกรุ่นย่อย เพื่อมอบประสบการณ์ในการขับเคลื่อนที่ดียิ่งกว่า โดยดีไซน์ใหม่นี้ เป็นการเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในโลก ด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบ “Multi-Dimensional Design” ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp และ ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential   เหนือระดับ ด้วยหลังคา Panoramic Roof แบบ Frameless พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาอิสระ ทั้งยังมาพร้อมกับการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และช่องต่อ USB แบบ type C โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ Parking Support Brake, ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ Tire Pressure Monitoring System, กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° View, สัญญาณเตือนกะระยะ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ รวมทั้ง ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold  อีกด้วย

 

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงภาพรวมในการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าในปีที่ผ่านมา พร้อมแนะนำแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ว่า “ ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยต้องเผชิญความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยลดลง 9% โดยเฉพาะเซกเมนต์รถกระบะที่ลดลงถึง 32% ในขณะที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนได้เข้าสู่ตลาด และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 5% ถึง 11% ซึ่งภายใต้ส่วนแบ่งตลาดดังกล่าว สัดส่วนการขายของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เติบโตขึ้นจาก 1% เป็น 10% อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โตโยต้ายังคงมีรถหลายรุ่น ได้แก่ คัมรี ฟอร์จูนเนอร์ เวลอซ และไฮเอซ ที่เป็นผู้นำในเซกเมนต์ต่าง ๆ นอกจากนั้น ยาริสและเอทีฟก็สามารถครองตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งในเซกเมนต์อีโคคาร์ด้วยส่วนแบ่งตลาด 45% สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา สำหรับเซกเมนต์รถเอนกประสงค์ SUV โตโยต้ากลับมาครองยอดขายสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาหลังจากการแนะนำยาริส ครอส รวมถึง รถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% เป็นสัดส่วนที่สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของโตโยต้าอยู่ที่ 34.3% สูงที่สุดนับตั้งแต่พ.ศ. 2558 และสูงกว่า พ.ศ. 2565 ที่ 0.3% ซึ่งเราขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ได้ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของโตโยต้าเป็นอย่างดีเสมอมา

 

ทั้งนี้เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า และยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ โดยโตโยต้ายังคงมุ่งเดินหน้าตามกลยุทธ์ในการเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง หรือ “Multiple Pathway” โดยพิจารณาจากปัจจัยทั้งความหลากหลายของลูกค้า การใช้งาน ข้อจำกัดในแต่ละภูมิประเทศ อาทิ โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน สภาพถนน ข้อจำกัดทางด้านพลังงาน เป็นต้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง โตโยต้ามีความต้องการที่จะมุ่งเติมเต็มชีวิตของผู้คน และนำมาซึ่งรอยยิ้มของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น เราจึงเลือกกลยุทธ์ Multiple Pathway ตามปรัชญา "Mobility for All" โดยที่จะ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" (No One leaves behind)

โดยในปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ในประเทศไทยได้เติบโตแบบก้าวกระโดด  อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฮบริด (HEV) ก็เติบโตขึ้น และยังกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของลูกค้าชาวไทย สำหรับประเภทรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ด้วยเหตุผลที่สามารถใช้งานได้จริงอย่างเหมาะสม ลูกค้ามีความอุ่นใจขณะใช้งาน และมีค่าบำรุงรักษาต่ำ  รวมไปถึงมีมูลค่าในการขายต่อที่ดี โดยในปีที่แล้ว ส่วนแบ่งตลาดของรถไฮบริด อยู่ที่มากกว่า 12% และในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 17%

อีกหนึ่งกระแสสำคัญในประเทศไทย คือ ความนิยมในรถยนต์ประเภท SUV โดยในปีที่แล้วนั้น ส่วนแบ่งตลาดของ SUV เพิ่มขึ้นที่ 38% แม้ว่าตลาดรถยนต์รวมจะหดตัวลง 9% ทั้งนี้เนื่องมาจากประโยชน์ใช้สอยของรถ SUV เอง ที่สามารถตอบสนองรูปแบบการใช้งานอันหลากหลาย ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันในรูปแบบคนเมือง จนถึงการออกไปใช้ชีวิตแบบผจญภัยในช่วงวันหยุด  ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เพื่อความสำเร็จในประเทศไทยต่อไป และนำรอยยิ้มของลูกค้าชาวไทยมาให้มากขึ้น และนี่คือการเปิดตัวรอบ World Premiere ของ Corolla Cross ใหม่ ที่ได้รับการอัพเกรด เพื่อมอบความพรีเมี่ยม เหนือระดับ ด้วยการออกแบบภายนอกที่ล้ำสมัยและได้มาตรฐานของสเปกที่ต้องการ ซึ่งผมหวังอย่างยิ่งว่า โคโรลล่า ครอส ใหม่ จะได้รับการยอมรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี เหมือนดังเช่นเคย”

 

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจุดเด่นของโคโรลล่า ครอสใหม่ ว่า “โคโรลล่า ครอส รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567 มีการปรับเปลี่ยนยกระดับดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน ปรับปรุงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และในขณะเดียวกัน ก็ยังรักษาจุดเด่นของตัวรถด้านประสิทธิภาพการขับขี่ และความประหยัดน้ำมันเอาไว้ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าครอบครัวคนรุ่นใหม่”    

“ดีไซน์ภายนอก มีการปรับภายใต้คอนเซปต์ Urban x Premium ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ใช้งานในเมือง ด้วยไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp มาพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้า LED แบบ Sequential ดูหรูหรา ล้ำสมัย และให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม และไฟท้ายดีไซน์ใหม่ กันชนหน้า และกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Multi-dimensional ที่ทำให้ตัวรถดูกว้าง ทันสมัย และทรงพลัง ล้ออัลลอยสีทูโทน ดีไซน์ใหม่”

“ภายในปรับเปลี่ยนให้มีความพรีเมียมยิ่งขึ้น ด้วยสีภายในแบบทูโทน มีทั้งหมด 2 สี คือสีดำ และสีใหม่ สี Dark Rose ให้ความรู้สึกหรูหรา เหนือระดับ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Frameless Panoramic Roof ขนาดใหญ่ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า EPB มาตรวัดแบบ Full Digital พร้อมจอแสดงผลข้อมูลขับขี่ ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ปรับการแสดงผลได้หลากหลาย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และอุปกรณ์ ชาร์จไฟแบบไร้สาย”

“ด้านความปลอดภัย รุ่น HEV ทุกรุ่นติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมกับ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-speed พร้อม Stop & Go ลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่ง และเร่งกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ เมื่อคันหน้าเคลื่อนตัว  กล้องมองรอบคัน PVM ให้ภาพที่เคลียร์ชัด ที่มากับระบบ PKSB ช่วยเตือนขณะจอดรถ   พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ ทำให้การจอดรถในทุกทิศทาง 360 องศา ทำได้ง่าย และปลอดภัย ติดตั้งระบบเตือนมุมอับสายตา BSM และช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย”

“ด้านสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และ เครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร มีพละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม.ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 98 กรัม/กิโลเมตร ในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด โครงสร้างตัวถัง และช่วงล่างถูกพัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานตัวถัง TNGA ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล และมั่นใจ”

“ในรุ่นใหม่ มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย และมีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี พร้อมกับสีใหม่อย่าง Cement Gray Metallic ที่หรูหรา และทันสมัย ด้วยการปรับปรุงในครั้งนี้ เรามั่นใจว่า Corolla Cross จะสามารถตอบโจทย์ และพร้อมพาลูกค้าทุกท่าน ออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ อีกครั้ง”

 

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแผนการตลาดว่า “ในปีที่ผ่านมา เราได้มีการแนะนำ YARIS CROSS ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่มีความเต็มที่ในทุกด้าน และในปีนี้ เพื่อให้ Corolla Cross เป็นยนตรกรรมที่สามารถตอบรูปแบบการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งเป็น “ผู้บริหาร และครอบครัวรุ่นใหม่” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Corolla Cross ใหม่ จึงได้รับการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นเดิม ให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์แบบมากขึ้นในหลายๆ ด้าน”

 “Corolla Cross ใหม่ จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริหาร และครอบครัวรุ่นใหม่ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยคอนเซปท์ “Complete your life ตอบ...ทุกความหมายชีวิต” โดยเรามีพรีเซนเตอร์ครอบครัว   รุ่นใหม่ ซึ่งสะท้อนภาพลักษณ์ของกลุ่มลูกค้า Corolla Cross ที่ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ กับครอบครัว”

“โดยเราวางเป้าหมายการขายของ Corolla Cross ใหม่ ไว้ที่ 1,500 คันต่อเดือน และจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป”

โคโรลล่า ครอส ใหม่ มาพร้อมทางเลือกสีภายนอก 5 สี และสีภายใน 2 สี

สีภายนอก

รุ่น HEV Premium Luxury, HEV Premium และ 1.8 Sport Plus

- ใหม่! สีเทา Cement Gray Metallic                                   

- สีเทา Celestite Gray Metallic

- สีขาว Platinum White Pearl

- สีเงิน Metal Stream Metallic

- สีดำ Attitude Black Mica

รุ่น HEV GR Sport

- สีขาว Platinum White Pearl พร้อมหลังคาดำ

- สีแดง Red Mica Metallic พร้อมหลังคาดำ

- สีดำ Attitude Black Mica

สีภายใน

- ใหม่! สี Dark Rose  เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury / HEV Premium ที่สีภายนอกสี Platinum White Pearl, สี Celestite Gray Metallic, สี Attitude Black Mica

- สี Black เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury / HEV Premium ที่สีภายนอกสี Cement Gray Metallic และ สี Metal Stream Metallic และรุ่น 1.8 Sport Plus

- สี GR Sport Black เฉพาะรุ่น GR Sport

เป็นเจ้าของ โคโรลล่า ครอส ใหม่ วันนี้ รับข้อเสนอสุดพิเศษ!

- ดอกเบี้ยพิเศษ ช่วงแนะนำ เริ่มต้นเพียง 1.79%* (ดาวน์ 25%, 48 เดือน) พร้อมประกันภัยชั้น 1 PHYD รวมทั้งข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าปัจจุบันของโตโยต้า ด้วยส่วนลดดอกเบี้ย 0.3%

- สะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายกับเทคโนโลยี Connected ทั้งด้านประกันภัย การบำรุงรักษา และ การสะสมคะแนนแลกสิทธิพิเศษมากมาย

 สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เกียร์อัตโนมัติ

- HEV GR-Sport  ราคา   1,254,000 บาท**

- HEV Premium Luxury  ราคา 1,204,000 บาท**

- HEV Premium  ราคา 1,094,000 บาท**

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ

- 1.8 Sport Plus   ราคา  999,000 บาท**

 

*สำหรับสีพิเศษ

รุ่น GR-Sport สี Platinum White Pearl พร้อมหลังคาสีดำ เพิ่ม 15,000 บาท, สี Red Mica Metallic พร้อมหลังคาสีดำ เพิ่ม 10,000 บาท

รุ่น HEV Premium Luxury, HEV Premium, 1.8 Sport Plus สี Platinum White Pearl และ Cement Gray Metallic เพิ่ม 10,000 บาท

**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด