ส.อ.ท. สรุปยอดผลิตรถปี 64
เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.2
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนธันวาคม 2564 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนธันวาคม 2564 มีทั้งสิ้น 154,368 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 6.64 แต่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 7.89 เพราะผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.68 และผลิตรถยนต์นั่งขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.18 จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,685,705 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 18.12
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2564 ผลิตได้ 50,231 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 7.22ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 มีจำนวน 599,844 คัน เท่ากับร้อยละ 35.58 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 10.58
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนธันวาคม 2564 ผลิตได้ 0 คัน รวมเดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตได้ 29 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 87.76
รถยนต์บรรทุก เดือนธันวาคม 2564 ผลิตได้ทั้งหมด 104,137 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 17.13 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,085,832 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 22.78
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2564 ผลิตได้ทั้งหมด 100,662 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 16.48 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,050,202 คัน เท่ากับร้อยละ 62.30 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 21.90 โดยแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 266,658 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 2.03
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 655,592 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 30.96
- รถกระบะ PPV 127,952 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 28.45
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน เดือนธันวาคม 2564 ผลิตได้ 3,475 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 40.06 รวมเดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตได้ 35,630 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 55.95
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนธันวาคม 2564 ผลิตได้ 77,592 คัน เท่ากับร้อยละ 50.26 ของยอดการผลิตทั้งหมด และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 31.19 ส่วนเดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 956,530 คัน เท่ากับร้อยละ 56.74 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 34.91
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2564 ผลิตเพื่อการส่งออก 11,893 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 40.42 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 271,544 คัน เท่ากับร้อยละ 45.27 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 16.28
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2564 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 65,699 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 67.68 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 684,986 คัน เท่ากับร้อยละ 65.22 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 44.05 โดยแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 83,767 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 49.71
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 524,011 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 45.60
- รถกระบะ PPV 77,208 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 29.40
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนธันวาคม 2564 ผลิตได้ 76,776 คัน เท่ากับร้อยละ 49.74 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 8.52 และเดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตได้ 729,175 คัน เท่ากับ ร้อยละ 43.26 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 1.55
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2564 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 38,338 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 12.18 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตได้ 328,300 คัน เท่ากับร้อยละ 54.73 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.28
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2564 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 34,963 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 25.99 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 365,216 คัน เท่ากับร้อยละ 34.78 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 5.39 ซึ่งแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 182,891 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2563 ร้อยละ 10.95
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 131,581 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 6.49
- รถกระบะ PPV 50,744 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 27.03
รถจักรยานยนต์
เดือนธันวาคม 2564 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 217,423 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 6.34 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 167,823 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 5.48 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 49,600 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 9.32
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,309,474 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 14.14 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,780,654 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 10.24 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 528,820 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 29.58
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนธันวาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 86,145 คัน สูงสุดในรอบ 12 เดือนเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 20.12 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 17.2 ต่ำกว่าปี 2563 เพราะมีปัจจัยลบสองอย่างคือการระบาดของโควิด 19 หลายระลอก ทำให้รัฐบาลล็อกดาวน์เมื่อกลางเดือนกรกฏาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ทำให้ลูกค้าถอนมัดจำและชะลอการรับรถในช่วงนั้น และการขาดแคลนเซมิคอนดั๊กเตอร์ทำให้ต้องชะลอการผลิตรถยนต์บางรุ่นเป็นระยะ ๆ แต่สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 750,000 คัน จากการคลายล็อกดาวน์ของรัฐบาลมากขึ้นและการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเช่นโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ยิ่งใช้ยิ่งได้ และการประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น รวมถึงการอนุญาตให้จัดงานมหกรรมยานยนต์ที่มียอดจอง 31,583 คันมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 145,343 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 17.40 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 0.48
ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 รถยนต์มียอดขาย 759,119 คัน ลดลงจากปี 2563 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 4.2 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,606,481 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 6
การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนธันวาคม 2564 ส่งออกได้ 101,307 คัน สูงสุดในรอบ 9 เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 2.51 และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 47.93 จากการได้รับเซมิคอนดั๊กเตอร์และชิ้นส่วนมากขึ้นจนสามารถส่งออกได้กว่า 100,000 คัน สูงสุดในรอบเก้าเดือนและส่งออกเพิ่มขึ้นทุกตลาดโดยเฉพาะตลาดออสเตรเลียและโอเชียเนียที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 101.5 ตลาดยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ 64.96 ตลาดอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 54.99 ตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 121.87 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และยังส่งออกเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์เพิ่มขึ้นจากการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นของประเทศคู่ค้าดังนี้
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 4,230.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 97.06
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่น ๆ มีมูลค่าการส่งออก 15,154.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 1.66
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,137.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 21.47
- รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนธันวาคม 2564 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 82,510.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 42.18
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 959,194 คัน โดยส่งออกเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 30.35 มีมูลค่าการส่งออก 561,147.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 36.56 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 41,568.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 74.53
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่น ๆ มีมูลค่าการส่งออก 199,605.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 44.74
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 24,405.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 26.62%
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 826,726.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 39.67
รถจักรยานยนต์
เดือนธันวาคม 2564 มีจำนวนส่งออก 85,678 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 9.24 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 5.74 โดยมีมูลค่า 5,629.15 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 82.82
- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 186.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 56.39
- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 173.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 58.43
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนธันวาคม 2564 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,989.32 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 81.84%
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 965,967 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 32.84 โดยมีมูลค่า 75,985.32 ล้านบาท ลดลงจากปี 2563 ร้อยละ 11.44
- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,397.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 105.52
- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,152.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 75.56 รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 80,535.42 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ร้อยละ 8.68
เดือนธันวาคม 2564 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 88,499.32 ล้านบาท ลดลงจากปี 2563 ร้อยละ -2.76
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 907,262.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 33.40
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ.2565 โดยแยกเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ดังนี้
รถยนต์
ประมาณการการผลิตรถยนต์ในปี พ.ศ.2565 ประมาณ 1,800,000 คัน มากกว่าปี พ.ศ.2564 ซึ่งมีจำนวน 1,685,705 คัน เพิ่มขึ้น 114,295 คัน คิดเป็นร้อยละ 6.78 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,000,000 คัน เท่ากับร้อยละ 55.56 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 800,000 คัน เท่ากับร้อยละ 44.45 ของยอดการผลิตทั้งหมด
- ผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 1,000,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 956,530 คัน เป็นจำนวน 43,470 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.54 และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 800,000คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 729,175 คัน เป็นจำนวน 70,825 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.71เนื่องจากยังกังวลเรื่องการระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยและในต่างประเทศ ซึ่งจะยังคงทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยและของประเทศคู่ค้ายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ประกอบกับการผลิตรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศบางแห่งขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดั๊กเตอร์บางชิ้น ทำให้ต้องชะลอการผลิตบางรุ่นลงชั่วคราว
รถจักรยานยนต์
ประมาณการการผลิตรถจักรยานยนต์ในปี พ.ศ.2565 ประมาณ 2,000,000 คัน มากกว่าปี พ.ศ.2564 ซึ่งมีจำนวน 1,780,654 คัน เพิ่มขึ้น 219,346 คัน คิดเป็นร้อยละ 12.31 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 350,000 คัน เท่ากับร้อยละ 17.50 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,650,000 คัน เท่ากับร้อยละ 82.50 ของยอดการผลิตทั้งหมด
- ผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 350,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 437,147 คัน เป็นจำนวน 87,147 คัน หรือลดลงร้อยละ 19.94
- ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 1,650,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,296,281 คัน เป็นจำนวน 306,493 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.81