ปิดศักราชการแข่งขัน Moto2 ปี 2020
เอาชนะทุกความท้าทายด้วยเครื่องยนต์ไทรอัมพ์
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรายการ Moto2 ฤดูกาล 2020 นับเป็นความท้าทายที่แตกต่างจากทุกปีอย่างสิ้นเชิง หลังจากความตื่นเต้นในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเปิดฤดูกาลการแข่งขันณ สนามกาตาร์ มีเพียงการแข่งขัน Moto2 และ Moto3 แม้ว่าความท้าทายดังกล่าวจะเกิดขึ้น แต่การแข่งขัน Moto2 ยังคงดำเนินต่อไปอย่างน่าตื่นเต้น เร้าใจ และลุ้นระทึกในทุกรอบการแข่งขัน ซึ่งการเข้าร่วมการแข่งขันเป็นปีที่ 2 ของเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ ในการแข่งขัน Moto2 ได้พิสูจน์แล้วว่า ฤดูกาล 2020 เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ และท้าทายยิ่งกว่าครั้งแรก
สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ Moto2 ฤดูกาล 2020 ผู้ชนะทั้ง 7 คน ได้ทำสถิติใหม่ในการแข่งขัน 11 รอบสนาม ซึ่งทุบสถิติเดิมในปี 2019 ด้วยเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ แบบ 3 สูบ ขนาด 765 ซีซี โดยแชมป์โลกคนใหม่ เอเนีย บาสเตียนินี (Enea Bastianini) ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำจากการแข่งขันในรอบสุดท้ายของฤดูกาล โดยมีลูก้า มารินี (Luca Marini) และแซม โลวส์ (Sam Lowes) ทำคะแนนเป็นอันดับ 2 และอันดับ 3 จากการแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบระยะทางกว่า 200,000 กิโลเมตร ในฤดูกาลที่มีทั้งหมด 15 สนาม (ยกเว้นสนามเปิดการแข่งขันที่กาตาร์) ทำให้การแข่งขันทั้งหมดถูกบีบให้ต้องดำเนินไปอย่างไม่หยุดพัก ภายในระยะเวลาเพียงแค่สี่เดือน
ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2 หลังจากปิดฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ในปี 2020 เริ่มต้นขึ้นอย่างร้อนระอุ เป็นผลมาจากไทรอัมพ์ได้ปรับแต่งอัตราทดให้สามารถสับเกียร์ของเครื่องยนต์ Moto2 แบบ 3 สูบ ขนาด 765 ซีซี ได้อย่างดุเดือดมากขึ้น และด้วยการเก็บข้อมูลจากทีมงานและนักแข่งตลอดระยะเวลา 1 ปี ช่วยให้สามารถทำลายสถิติในรอบทดสอบก่อนเริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันที่สนามเฆเรซ และกาตาร์
เนื่องด้วยความสูสีของผลการแข่งขัน และความดุเดือดในการแข่งขัน Moto2 ไทรอัมพ์ได้เปิดตัวรางวัล Triumph Triple Trophy ประจำปี 2020 ที่จัดขึ้นควบคู่ไปกับการแข่งขันชิงแชมป์โลก เพื่อสร้างการยอมรับในด้านขีดความสามารถที่ยอดเยี่ยมในทุกรอบสนาม จึงได้มีการให้รางวัลแก่ผู้ขับขี่ที่ทำคะแนนความเร็วสูงสุด (Fastest top speed) โพล โพสิชั่น (Pole position) และความเร็วต่อรอบการแข่งขันที่เร็วที่สุด (Fastest race lap) โดยมาร์โก เบซเซคคี (Marco Bezzecchi) นักบิดจากอิตาลี เข้าเส้นชัยก่อนด้วยการทำความเร็วสูงสุด ทำให้เขาขึ้นเป็นผู้นำที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 765 ซีซี ที่พัฒนามาจากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ในไทรอัมพ์ สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส (Street Triple RS) ทั้งนี้รางวัล Triumph Triple Trophy จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งในฤดูกาล 2021
นอกจากนี้ การที่มีนักบิดเข้าสู่การแข่งขันรายการ MotoGP มากขึ้นในฤดูกาล 2021 แสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์ของไทรอัมพ์ได้ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันรายการ Moto2 ขยับเข้าใกล้ MotoGP มากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในฤดูกาล 2020 โดยเมื่อปีที่แล้ว อเล็กซ์ มาร์เกซ (Alex Marquez) ผู้ชนะการแข่งขันชิงแชมป์โลก Moto2 จากประเทศสเปน ทำคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถขึ้นสู่โพเดียมถึง 2 สนามซ้อนได้เป็นปีแรก และรองชนะเลิศในปี 2019 อย่างแบรด บินเดอร์ (Brad Binder) นักแข่งชาวแอฟริกาใต้ ก็สามารถทำคะแนนได้ดีกว่าเดิม จนคว้าชัยชนะในฤดูกาลใหม่ของเขา (เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่สถิติของมาร์ค มาร์เกซ ในปี 2013) ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเครื่องยนต์ของไทรอัมพ์ได้ลดช่องว่างการแข่งขันในระหว่างสองคลาสมากเพียงใด และการแข่งขัน Moto2 สามารถผลักดันขีดความสามารถของนักแข่งให้เลื่อนขั้นไปสู่การแข่งขันในระดับแนวหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม
หลังจากการแข่งขันได้จบลง การเตรียมความพร้อมของทีมแข่ง นักแข่ง รวมถึงทีมงานไทรอัมพ์ ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อทำให้ฤดูกาลต่อไปสามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยในวันที่ 16 มีนาคม 2021 ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันทดสอบการแข่งขัน Moto2 อย่างเป็นทางการ ที่สนามเฆเรซ ประเทศสเปน เป็นระยะเวลาแค่ 12 วัน ก่อนเริ่มต้นการแข่งขัน เพื่อเฟ้นหานักบิดที่จะครองตำแหน่งแชมป์โลกคนต่อไป ที่กำลังจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในสนามกาตาร์