บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย

เปิดตัว GS สองรุ่นใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS

และ F 900 GS Adventure

 

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เปิดตัวสมาชิกใหม่ในตระกูล GS สองรุ่นล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS และบีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure มอเตอร์ไซค์ทัวริ่ง เอนดูโร เสริมตระกูล GS ในกลุ่มแอดเวนเจอร์ขนาดกลาง ที่ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดและการขับขี่ผจญภัยระยะไกลให้ครบครันยิ่งขึ้น พร้อมน้ำหนักที่ลดลงไปถึง 14 กิโลกรัม โดยในรุ่น F 900 GS โดดเด่นด้วยนวัตกรรมที่เหนือกว่า พร้อมความคล่องตัวและทรงพลัง ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure ถูกผสมผสานทั้งเทคโนโลยี เครื่องยนต์ เพื่อตอบโจทย์ผู้รักการเดินทางไกล ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมขุมพลังที่เหมาะกับเส้นทางออฟโรด ด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบแถวเรียงที่ล้ำสมัย และโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย

 

มร. ชิวาภาดา เรย์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้นำมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งเอนดูโรสองรุ่นใหม่มาเปิดตัวแก่แฟน ๆ ชาวไทย ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาในด้านสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด ทัวริ่ง และศักยภาพในการผจญสภาวะการขับขี่ที่ท้าทายต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญ ทั้งสองรุ่นนี้ ยังประกอบขึ้นที่โรงงานของเราในจังหวัดระยอง เพื่อส่งให้แก่ตลาดในประเทศและในภูมิภาค เป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพในการผลิตและเครือข่ายการผลิตที่แข็งแกร่งของเรา เรามั่นใจว่าทั้งบีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS และ F 900 GS Adventure จะสามารถตอบโจทย์นักขี่ที่มองหามอเตอร์ไซค์สำหรับการผจญภัยระยะไกลได้อย่างแน่นอน”

 

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Style Passion ราคาจำหน่าย 649,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Style GS Trophy ราคาจำหน่าย 665,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

หัวใจสำคัญของ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS คือเครื่องยนต์ที่ได้รับการอัพเกรดเป็น 2 สูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 895 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 77 กิโลวัตต์ / 105 แรงม้า ที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที เครื่องยนต์นี้ส่งมอบอัตราเร่งที่รวดเร็วและการส่งกำลังที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกสภาพพื้นผิว และด้วยน้ำหนักที่ลดลงไปถึง 14 กิโลกรัมหากเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้ F 900 GS เป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ GS สปอร์ตที่คล่องตัวที่สุด

 

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS มาพร้อมกับโหมดการขับขี่มาตรฐานสองแบบ ได้แก่ 'Rain' และ 'Road' เพื่อการควบคุมที่เหมาะสมที่สุดในสภาพการขับขี่ที่หลากหลาย ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) และ ABS Pro ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเข้าโค้งและการเบรก โหมด 'Riding Modes Pro' ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะเพิ่มโหมด 'Dynamic', 'Enduro' และ 'Enduro Pro' ซึ่งจะปรับการตอบสนองของคันเร่งและการเบรกให้รับกับทุกสภาพพื้นผิว นอกจากนี้ Riding Modes Pro ยังช่วยให้คนขับขี่สามารถเลือกตั้งค่าปุ่มต่าง ๆ ที่แฮนด์ด้านขวา และการควบคุมแรงบิดลากของเครื่องยนต์เป็นอีกองค์ประกอบใหม่ของ Riding Modes Pro ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน

มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ได้รับการออกแบบโครงรถใหม่ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่แบบทัวริ่งและออฟโรด ถังน้ำมันขนาด 14.5 ลิตรที่ออกแบบใหม่ ผนวกกับการปรับส่วนท้ายรถและท่อไอเสียแบบ Akrapovič ช่วยลดน้ำหนักลง เพิ่มความคล่องตัวได้มากยิ่งขึ้น การปรับแต่งที่พักเท้าที่ต่ำลงและแฮนด์บาร์ที่สูงขึ้น ช่วยควบคุมระหว่างการขับขี่แบบ

ออฟโรด และยังมีสวิงอาร์มที่น้ำหนักเบาขึ้น ตัวลดเสียงท่อไอเสียด้านหลังแบบสปอร์ตโดย Akrapovič ที่พักเท้าแบบเอนดูโร แฮนด์จับแบบอุ่น (heated grips) ขาตั้งข้างอะลูมิเนียม และไฟหน้า LED แบบใหม่ที่ให้แสงสว่างในมุมที่กว้างขึ้นเมื่อเปิดโหมดไฟต่ำอีกด้วย

 

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ตั้งแต่จอแสดงผลแบบ TFT ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ที่ให้การควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง ควบคุมเพลง หรือรับสาย ผู้ขับขี่ก็สามารถทำได้อย่างราบรื่นผ่านแอปพลิเคชัน BMW Motorrad Connected และยังมีพอร์ตชาร์จ USB สองพอร์ต ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ มีพลังงานเพียงพอใช้งานระหว่างการขับขี่ทางไกล นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS ยังมาพร้อมกับแท่นยึดอุปกรณ์อเนกประสงค์ ช่วยให้นักขับขี่สามารถติดตั้งอุปกรณ์นำทาง กล้อง และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ และยังมีฟีเจอร์ด้านความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นให้ผู้ขับขี่เลือกใช้งาน เช่น Keyless Ride ช่วยให้สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์และปลดล็อคฟังก์ชันต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจออกจากกระเป๋า

ที่สำคัญกว่านั้น มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากมาย อาทิ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ช่วยให้สตาร์ทรถบนทางชันได้ง่ายขึ้น ระบบ Dynamic Brake Control (DBC) ป้องกันการเร่งเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจในสถานการณ์เบรกฉุกเฉิน ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ABS Pro มอบความปลอดภัยยิ่งขึ้นในระหว่างการเข้าโค้งและการเบรกกะทันหัน เพื่อให้มั่นใจในการขับขี่ที่ปลอดภัยสูงสุดสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด F 900 GS มีให้เลือก 2 สีที่ต่างเน้นย้ำถึงความสปอร์ตและการขับขี่แบบออฟโรด ได้แก่ สีเหลือง São Paulo สำหรับรุ่น Passion และสีขาวตัดฟ้า Lightwhite / Racing Blue Metallic สำหรับรุ่น GS Trophy

 

 

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure  ราคา 689,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure ก้าวข้ามขีดจำกัดของมอเตอร์ไซค์ทัวริ่ง เอนดูโร โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 895 ซีซี ที่ทรงพลังและอเนกประสงค์ ให้กำลังสูงสุด 77 กิโลวัตต์ / 105 แรงม้า ที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที มอบอัตราเร่งที่ราบรื่นและทรงพลังในทุกสภาพพื้นผิว และเสียงของท่อไอเสียที่ทุ้มลึกและดุดันอันเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มอารมณ์ให้กับประสบการณ์การขับขี่แบบผจญภัย

 

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure ยังได้รับการออกแบบที่เน้นความทนทาน อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและคุณสมบัติต่าง ๆ เพิ่มทั้งความสะดวกสบายและสมรรถภาพ มีโหมดการขับขี่มาตรฐานสองแบบ ได้แก่ 'Rain' และ 'Road' เพื่อให้มั่นใจถึงการควบคุมรถสูงสุดในสภาพอากาศและสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย สำหรับนักขับขี่ที่ต้องการความสามารถในการปรับตัวมากขึ้น ส่วนโหมด 'Riding Modes Pro' ซึ่งเป็นแพ็คเกจเสริม มาพร้อมโหมดเพิ่มเติม เช่น 'Dynamic', 'Enduro' และ 'Enduro Pro' ช่วยให้สามารถปรับแต่งการตอบสนองของคันเร่ง การเบรก และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนให้เหมาะกับการผจญภัยทุกรูปแบบ นอกจากนี้ ระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) จะปรับช่วงล่างโดยอัตโนมัติตามสภาพพื้นผิวและน้ำหนักบรรทุก ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่และการควบคุมที่แม่นยำ ซึ่งจำเป็นสำหรับการขับขี่แบบทัวริ่งในระยะไกล นับเป็นการยกระดับประสบการณ์การขับขี่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยอย่างแท้จริง

 

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure สร้างขึ้นเพื่อการเดินทางระยะไกล ด้วยถังน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้น 23 ลิตร ตอบสนองผู้ที่ต้องการเดินทางโดยไม่ต้องหยุดเติมน้ำมันบ่อย ๆ  และมาพร้อมกับการ์ดเครื่องยนต์แบบอะลูมิเนียม เพิ่มการปกป้องขึ้นไปอีกในสภาพถนนที่ขรุขระ กระจกบังลมปรับได้ มอบความยืดหยุ่นในการปรับแต่งการป้องกันลมและสภาพอากาศตามสภาพการขับขี่ ไฟหน้า LED มาตรฐานของรุ่นนี้ยังช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าในเวลาใดหรือสภาพพื้นผิวแบบใด

 

นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่น แข็งแกร่งแต่ประณีต บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure ยังมาพร้อมตัวเลือกของสีสัน ได้แก่ สี Blackstorm Metallic สำหรับรุ่นพื้นฐาน และสี White Aluminium Matt สำหรับรุ่น Ride Pro เฉดสีเหล่านี้ช่วยเสริมลุคที่สอดคล้องกับโครงสร้างที่แข็งแกร่งของมอเตอร์ไซค์ สื่อถึงงานฝีมือระดับพรีเมียม ทำให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นไม่แพ้ศักยภาพของรถด้วยเช่นกัน

 

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของรถมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS และ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure ได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th เฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Motorrad Thailand หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วประเทศ