The all-new BMW XM 50e
รถสปอร์ตอเนกประสงค์ SAV ปลั๊กอินไฮบริดทรงพลังรุ่นล่าสุด
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวสมาชิกใหม่รุ่นที่สองแห่งตระกูล XM กับบีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ ที่ยังคงรูปลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ความสะดวกสบายอันหรูหรา และขุมพลังที่เหนือกว่า ตามแบบฉบับซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล XM และตามรอยรุ่นก่อนหน้าอย่างบีเอ็มดับเบิลยู XM ใหม่ ที่เปิดตัวในประเทศไทยไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดอันทรงพลัง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี M TwinPower Turbo ซึ่งมอบไดนามิกสุดเร้าใจพร้อมกับสมรรถนะอันน่าทึ่ง รถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ Sports Activity Vehicle สายพันธุ์ M รุ่นนี้จะสามารถมอบความเร้าใจที่เป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมตัวเลือกเพิ่มเติมกับออปชันเสริมซึ่งสามารถปรับแต่งได้หลากหลายให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย
รูปลักษณ์ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ บ่งบอกถึงความพิเศษ ตัวตนที่โดดเด่น และสมรรถนะที่ไม่เหมือนใครเช่นเดียวกับรถในตระกูล XM รุ่นก่อนหน้า ด้วยการผสมผสานความเป็นรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ Sport Activity Vehicle (SAV) อันทันสมัย รูปลักษณ์ที่ทรงพลัง สัดส่วนไดนามิกที่แข็งแกร่ง การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ M และรูปโฉมหน้ารถที่ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่มลักชัวรี่ พร้อมองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์อื่น ๆ ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ เปี่ยมไปด้วยออร่าแห่งความพิเศษและความชัดเจนในตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร
การออกแบบในสไตล์ M ยังช่วยเน้นย้ำถึงความดุดันและความมั่นใจของดีไซน์รถยนต์รุ่นนี้ เสริมความโดดเด่นด้วยไฟหน้าสองชั้น และกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ ที่มาพร้อมกรอบไฟส่องสว่างล้อมรอบกระจังหน้าทั้งคู่ แถบสีด้านข้างรถที่ชวนให้นึกถึงบีเอ็มดับเบิลยู M1 ยังช่วยยกระดับดีไซน์ด้านข้างของบอดี้ให้สะกดทุกสายตา นอกจากนั้น การออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู XM ยังรวมเอาองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ชวนให้นึกถึงอดีต อาทิ โลโก้ BMW ที่สลักไว้ที่กระจกหลังและไฟท้าย รวมถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ ในสีดำเงาและการตกแต่งรายละเอียดเส้นสายในสีดำดุดันช่วยขับให้บุคลิกของรถรุ่นนี้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ พร้อมส่งมอบขุมพลังที่อัดแน่นตั้งแต่วินาทีแรกที่เหยียบคันเร่ง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี M TwinPower Turbo และระบบขับเคลื่อน M Hybrid ซึ่งให้กําลังรวมสูงสุด 350 กิโลวัตต์ / 476 แรงม้า ที่แรงบิด 700 นิวตันเมตร ให้ได้สัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังตั้งแต่ออกตัว โดยรถรุ่นนี้สามารถ ทำความเร็วตั้งแต่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 5.1 วินาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ ปุ่ม M Hybrid ที่วางอยู่บริเวณคอนโซลกลางยังให้ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับได้ถึงสามโหมด ซึ่งรวมถึงโหมด ELECTRIC สำหรับการขับขี่ด้วยไฟฟ้าโดยที่ไม่ปลดปล่อยมลพิษ มอบกำลังสูงสุดที่ 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร ให้ความเร็วสูงสุดถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้พลังงานจากลิเธียม-ไอออนแบตเตอรี่ขนาด 29.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถ
เทคโนโลยี M xDrive ได้รับการออกแบบมาเพื่อรับประกันการส่งกำลังการขับขี่สู่ท้องถนนอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิก นอกจากนี้ ช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional ยังให้การควบคุมแบบสปอร์ตโดยไม่กระทบต่อความสบายของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional พร้อมควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเร็วของรถในระดับที่ต้องการและคงระยะห่างจากรถคันหน้าให้สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย และเพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังช่วยให้การจอดรถและการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ภายในของบีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ ยังแตกต่างด้วยดีไซน์อันโดดเด่น มอบความสะดวกสบายขั้นสุด ห้องโดยสารตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M ให้ความรู้สึกสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวในการขับขี่ ผ้าบุหลังคายังเป็นเสมือนงานประติมากรรม 3 มิติ ลวดลายแบบปริซึมและเมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาที่ส่องสว่างอย่างงดงามยามค่ำคืน คอนโซลด้านบนยังบุด้วยหนังแบบ BMW Individual ทำให้การตกแต่งภายในสะดุดตาและหรูหราไปอีกขั้น นอกจากนี้ ยังมีชุดไฟตกแต่งภายใน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบระบายอากาศและฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสําหรับเบาะนั่งตอนหน้าที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในรถยนต์รุ่นนี้ด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสารให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ด้วยหน้าจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการ BMW Operating System รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ IconicSounds Electric ให้เสียงขับที่กระตุ้นความตื่นเต้นแม้ในโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ คุณลักษณะเด่นอีกประการของรถยนต์รุ่นนี้คือ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาของตนกับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังจะได้รับประโยชน์จาก Connected Package Professional ช่วยให้มั่นใจว่าจะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและข้อมูลการจราจรอัปเดตล่าสุดเมื่ออยู่บนท้องถนน เตรียมพบกับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ ได้ที่ www.bmw.co.th หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Thailand