เกรท วอลล์ มอเตอร์
เปิดตัว ORA Good Cat อย่างเป็นทางการ
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัว ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ ORA ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “Future Ready, Enable Your Life with ORA Good Cat” โดยประกาศราคารุ่น 400 TECH ที่ 989,000 บาท รุ่น 400 PRO ราคา 1,059,000 บาท และรุ่น 500 ULTRA ที่ 1,199,000 บาท การันตีส่งมอบรถล็อตแรกเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป พร้อมจัดแคมเปญ ORA Good Cat PREMIERE DEAL ที่อัดแน่นด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย รวมมูลค่ากว่า 125,000 บาท ให้ลูกค้าคนพิเศษในช่วงการเปิดตัว และเตรียมเปิดสถานีชาร์จจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ แห่งแรกในประเทศไทย พร้อมขยาย GWM Store กว่า 30 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปี ตอกย้ำความมั่นใจให้ผู้บริโภคในการใช้และการดูแลรักษารถยนต์ในระยะยาว
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวและประกาศราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ORA Good Cat จากแบรนด์ ORA ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมกันทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 400 TECH รุ่น 400 PRO และรุ่น 500 ULTRA โดยมี มร. สตีเว่น หวัง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย และนายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ร่วมให้ข้อมูลและเผยราคา พร้อมตอกย้ำกลยุทธ์การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ในด้านการขับขี่อัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการขายและบริการหลังการขายแบบ Online-To-Offline (O2O) รูปแบบใหม่อย่างครบวงจรให้กับผู้บริโภค พร้อมร่วมขับเคลื่อน EV Ecosystem ให้กับประเทศไทย
หลังประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในประเทศจีนในช่วงหลายปีที่ผ่าน ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้นำรถยนต์ ORA Good Cat เข้ามาทำตลาดในต่างประเทศ โดยรุ่นที่ได้นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่
1. ORA Good Cat รุ่น 400 TECH
มาพร้อมกับสีรถยนต์ภายนอกที่มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) และสีขาว (Hamilton White) โดยภายในห้องโดยสารของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ทุกคันจะเป็นสีดำและเป็นเบาะผ้า มาพร้อมกับล้อขนาด 17 นิ้ว และเซ็นเซอร์กะระยะหลัง 4 จุด โดดเด่นด้วยหน้าจอแบบ Integrated Dual Screen ขนาดใหญ่ 17 นิ้ว และระบบนำทางอัจฉริยะ
2. ORA Good Cat รุ่น 400 PRO
มีสีภายนอกให้เลือกเพิ่มเติมจากรุ่น 400 TECH รวมเป็น 5 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) สีขาว (Hamilton White) สีฟ้า (Coral Blue) และตัวเลือกสีทูโทนอย่าง ตัวรถสีแดงพร้อมหลังคาสีดำ (Mars Red with Black Roof) และตัวรถสีขาวพร้อมหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof) โดยในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ทุกคันจะมีสีภายในห้องโดยสารเป็นสีดำ พร้อมเบาะหนัง ซึ่งในรุ่น 400 PRO ได้มีการเพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ รวมไปถึงกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา และหลังคาไฟฟ้า Panoramic Sunroof พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว เซ็นเซอร์กะระยะหลัง 4 จุด และระบบไล่ฝ้าภายในห้องโดยสารอัตโนมัติ
โดย ORA Good Cat ทั้งรุ่น 400 TECH และรุ่น 400 PRO ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 400 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC โดยใช้เวลาในการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแบบ DC 0%-80% ภายในระยะเวลาประมาณ 46 นาที หรือชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง
3. ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA
มาพร้อมสีภายนอกที่มีให้เลือกถึง 7 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) สีขาว (Hamilton White) สีฟ้า (Coral Blue) และตัวเลือกสีทูโทนอย่างตัวรถสีแดงพร้อมหลังคาสีดำ (Mars Red with Black Roof) และตัวรถสีขาวพร้อมหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof) ซึ่ง 5 สีภายนอกนี้ จะมาพร้อมสีภายในห้องโดยสารสีดำและเบาะหนัง ส่วนสีภายนอกแบบทูโทน อีก 2 สีที่เพิ่มเข้ามา คือ ตัวรถสีเขียวพร้อมหลังคาสีขาว (Verdant Green with White Roof) ที่มาพร้อมสีภายในห้องโดยสารสีเขียว/เทา พร้อมเบาะหนัง และตัวรถสีเบจพร้อมหลังคาสีน้ำตาล (Hazel Wood Beige with Brown Roof) ที่มาพร้อมภายในห้องโดยสารสีเบจ/น้ำตาล และเบาะหนัง โดยทุกคันในรุ่นนี้จะมาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามาถวิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 500 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC โดยใช้เวลาในการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแบบ DC จาก 0%-80% ภายในระยะเวลาประมาณ 60 นาที หรือชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
ในรุ่น 500 ULTRA นี้ ยังพิเศษไปด้วยฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่ให้มาเพิ่มเติมจากรุ่นอื่นๆ อย่าง ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ เพื่อช่วยจอดอัตโนมัติได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง และยังมีเบาะนวดไฟฟ้าพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะของผู้ขับ ระบบ Welcome Seat และระบบบันทึกตำแหน่งของกระจกมองข้าง รวมไปถึงไฟ Welcome light เซ็นเซอร์กะระยะหลัง 6 จุด และระบบไล่ฝ้าภายในห้องโดยสารอัตโนมัติ
ซึ่งทั้ง 3 รุ่น มีมิติตัวรถ 1,825 x 4,235 x 1,596 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,650 มม. ถือว่ายาวที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน โดยตัวรถได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM E LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าอัจฉริยะที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนและรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา และเปี่ยมไปด้วยความปลอดภัยขั้นสูง ORA Good Cat ทั้ง 3 รุ่น ยังโดดเด่นด้วยกระจังหน้าพร้อมระบบ Active Air Intake และไฟหน้าอัจฉริยะแบบ Full LED รูปทรงกลมแบบ Cat-Eyes หลังคา Panoramic Sunroof ที่เปิด -ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า (สำหรับรุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA) แถบไฟท้ายพาดยาวจากซ้ายจรดขวา (LED Tail light Strip) ไฟตัดหมอกท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ภายในห้องโดยสารของ ORA Good Cat ทั้ง 3 รุ่น ได้รับการออกแบบอย่างประณีตภายใต้แนวคิด “Intelligent Cockpit with Exquisite Craftsmanship” นับเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ดึงดูดทุกสายตา พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Integrated Double Screen ที่แบ่งออกเป็นหน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมิเดียพร้อมระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว รวมไปถึงระบบกรองอากาศ CN95 ซึ่งสามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้อากาศภายในห้องโดยสารสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
สมรรถนะที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ORA Good Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 105 kW หรือ 143 PS แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) และหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) พร้อมเหล็กกันโคลง ให้การขับขี่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายมากยิ่งขึ้น
ORA Good Cat ทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดอีโค่ โหมด อีโค่พลัส และโหมดอัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามที่ต้องการ โดยระหว่างการขับขี่ แบตเตอรี่จะมีความสามารถในการการกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery) ได้ 3 ระดับ ได้แก่ น้อย มาตรฐาน และมาก
นอกจากนี้ ORA Good Cat ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างครบครัน ด้วยระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย (Driver Assistance and Safety Systems) สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+ อาทิ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Adaptive Cruise Control : ACC - with Intelligent Turning) (มีเฉพาะในรุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 ของโมบายอาย ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้ ระบบนี้ยังช่วยชะลอความเร็วในขณะเข้าโค้งโดยอัตโนมัติให้อีกด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Assist :ICA) (มีเฉพาะในรุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA) ระบบจะทำงานตามความเร็วที่ผู้ขับขี่ตั้งเอาไว้ แต่จะตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (Wisdom Dodge System : WDS) (มีเฉพาะในรุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA) ระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว โดยในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และจะประคองรถให้กลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (Integration Intelligent Parking : IIP) (มีเฉพาะในรุ่น 500 ULTRA) ใช้เซ็นเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถและช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา (มีเฉพาะในรุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA) ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถในแบบ “เฮลิคอปเตอร์” และเปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
ORA Good Cat ยังมาพร้อมระบบการใช้งานอัจฉริยะและระบบความบันเทิงต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย และสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น
- การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่ รวมไปถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ ที่สามารถทำออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย
- การตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
- การสั่งการและควบคุมรถจากระยะไกล ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานบางฟังก์ชั่นของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากรถยนต์ รวมไปถึงการสร้างระบบความปลอดภัยให้กับรถยนต์มากยิ่งขึ้น
- ระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดีย ซึ่งรองรับ Apple CarPlay Android Auto และ Google Assistant รวมไปถึงระบบนำทางหรือแอปพลิเคชันเพลง เช่น JOOX เป็นต้น
นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงเดินหน้าขยายสาขา GWM Store ทั้ง GWM Direct Store และ Partner Store ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย โดยในปัจจุบันมี GWM Store ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 21 แห่ง และมีแผนจะเปิดให้ครบ 30 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ และ 50 แห่ง ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า และยังได้เตรียมเปิดสถานีชาร์จแห่งแรกของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในประเทศไทย ที่บริเวณสยามสแควร์ กรุงเทพมหานคร ในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางในการให้บริการให้กับลูกค้า ORA Good Cat ได้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนา GWM Application อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเสริมประสบการณ์ด้านการขายและการให้บริการด้านต่าง ๆ ในรูปแบบ O2O ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เปิดราคา ORA Good Cat สุดคุ้ม พร้อมแคมเปญพิเศษอัดแน่นด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดราคา ORA Good Cat ทั้ง 3 รุ่น ที่จะจัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ รุ่น 400 TECH ที่ 989,000 บาท รุ่น 400 PRO ราคา 1,059,000 บาท และรุ่น 500 ULTRA ที่ 1,199,000 บาท โดยยังคงใช้นโยบายแบบ “ONE PRICE” ราคาเดียวเท่ากันในแต่ละรุ่น ในทุกๆ ช่องทางการจำหน่าย ทั่วประเทศ ในโอกาสนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้ส่งมอบแคมเปญ ORA Good Cat PREMIERE DEAL สำหรับช่วงการเปิดตัว ในระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2564 เวลา 20.00 น. ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เวลา 23.59 น. ที่อัดแน่นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย อาทิ
- ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 18,000 บาท
- ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์พร้อมการติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร จำนวน 1 ครั้ง (ไม่รวมค่าแท่นชาร์จ) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท
- ฟรี ค่าแรงและค่าอะไหล่งานบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM PRO Service Inclusive : GPSI) จำนวน 5 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1 0,588 บาท
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ( Roadside Assistance ) เป็นระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
- ฟรี สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับและส่งมอบรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง จำนวน 2 เที่ยว (ไป-กลับ) รวม 4 ครั้ง มูลค่ารวม 3,000 บาท (ฟรี ระยะทาง 10 กิโลเมตรแรก/ครั้ง และกิโลเมตรต่อไปคิดเป็นราคา 5 บาท/กิโลเมตร)
- รับ GWM Point 15,000 คะแนน เพื่อแลกรับของสมมนาคุณและบริการต่าง ๆ บน GWM Application
รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้แคมเปญ ORA Good Cat PREMIERE DEAL กว่า 125,000 บาท
นอกจากนี้ ORA Good Cat ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ (Factory Warranty & Roadside Assist) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ EV เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจองรถ ORA Good Cat ในแคมเปญ ORA Good Cat PREMIERE DEAL สามารถดูรายละเอียดเงื่อนไขของแคมเปญนี้ พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารของ ORA Good Cat เพิ่มเติมได้ที่ GWM Application หรือ เว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH หรือ Official Facebook Page : GWM Thailand และ ORA Thailand
ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ในแคมเปญ ORA Good Cat ULTRA DEAL หรือสั่งซื้อแพ็กเกจ ORA Value Plus สำเร็จแล้ว จะต้องทำสัญญาจองซื้อรถ ORA Good Cat และชำระเงินมัดจำ จำนวน 10,000 บาท ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 23.59 น. รวมถึงออกรถและส่งมอบรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขของแคมเปญ ORA Good Cat ULTRA DEAL ได้ที่เว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH/ORA-TERMS-CONDITION