Lamborghini Revuelto ซูเปอร์สปอร์ปลั๊กอินไฮบริด

เครื่องยนต์ V12 สมรรถนะสูงรุ่นแรกของโลก

 

ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี ฉลองครบรอบ 60 ปี เปิดตัว Lamborghini Revuelto รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเครื่องยนต์ V12 สมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) รุ่นแรกของแบรนด์ สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านสมรรถนะ ภาพลักษณ์แนวสปอร์ต และประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน นวัตกรรมการออกแบบรถยนต์ ระบบอากาศพลศาสตร์ประสิทธิภาพสูง และคอนเซ็ปต์ใหม่ของการใช้โครงคาร์บอนไฟเบอร์ กำลังเครื่องยนต์รวมสูงสุดอยู่ที่ 1,015 CV ผสานพลังระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ทำงานร่วมกับชุดเกียร์ดับเบิลคลัชต์ดีไซน์ใหม่ ถูกเปิดตัวในรถยนต์ลัมโบร์กินี 12 สูบรุ่นนี้เป็นครั้งแรก

 

Lamborghini Revuelto มาพร้อมดีไซน์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟด้วยสไตล์การออกแบบแนวใหม่ในทุกรายละเอียด รวมถึงการยังเชื่อมโยงเครื่องยนต์ V12 ระดับตำนานอันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ ตลอดจนการออกแบบสัดส่วนใหม่ เพื่อเปิดประตูสู่อนาคตอันสดใสของลัมโบร์กินี

Lamborghini Revuelto นำเสนอความล้ำหน้าแบบก้าวกระโดดด้วยดีไซน์ใหม่หมดจดทั้งภายนอกและภายใน หากแรงบันดาลใจจากเครื่องยนต์ V12 ในตำนานยังคงอยู่อย่างชัดเจน ด้วยต้นแบบจากรุ่น Countach ในปี 1971 และสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบซึ่งได้รับการพัฒนามาเพื่อติดตั้งตามแนวยาว ทำให้รถยนต์รุ่นนี้มอบสไตล์ที่งดงามอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นการสร้างนิยามใหม่ของแบบฉบับรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่น V12 ของลัมโบร์กินี ประตูปีกนกที่เปิดในแนวตั้ง (Scissor Doors) ได้สร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัวให้แก่ Lamborghini Revuelto อย่างน่าประทับใจ รถยนต์รุ่นนี้ยังใช้สัดส่วนชั้นเลิศที่ยากจะมีใครเลียนแบบได้ของรุ่น Diablo และใช้ Floating blade บนบังโคลนท้าย โชว์ความบึกบึน การออกแบบส่วนหน้ารถลู่ลงเหมือนในรุ่น Murciélago ได้อย่างลงตัว

 

การปรากฏตัวของ Lamborghini Revuelto เสมือนลัมโบร์กินีได้เปิดตัวยานอวกาศรุ่นใหม่ ด้วยการนำเสนอการออกแบบใหม่เพื่อรับมือความท้าทายในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนเป็นการกำหนดรูปลักษณ์และสัดส่วนของรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้อีกด้วย โดยดีไซน์ได้นำแรงบันดาลใจมาจากอุตสาหกรรมการบินซึ่งมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัวจากโครงสองเส้นสายหลักที่พาดผ่านจากด้านหน้า โอบล้อมห้องโดยสารและเครื่องยนต์ และลู่ลงสู่ชุดท่อไอเสียทรงหกเหลี่ยมส่วนท้ายอย่างสง่างาม

งานออกแบบส่วนหน้าดูแข็งแรงน่าเกรงขาม ด้วยรูปทรงแบบ Shark-nose ของฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ชุดไฟหน้ารูปตัววาย “Y” ที่ใช้ส่องสว่างในเวลากลางวัน ถือเป็นฟีเจอร์งานออกแบบแนวร่วมสมัยที่เปี่ยมด้วยสไตล์สุดล้ำของลัมโบร์กินี ล้อมด้วยแผงระบบอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic blades) ที่เชื่อมต่อกับสปลิตเตอร์ไปจนถึงฝาครอบ ส่วนฟินข้างซึ่งติดตั้งอยู่ด้านหลังซุ้มล้อหน้า ช่วยนำอากาศไหลไปตามด้านข้างและส่วนโค้งเว้าของประตูสู่ท่อดักอากาศ ซึ่งมีลักษณะเป็นสันคมที่สะท้อนรูปทรงหัวลูกศรด้านหน้าได้อย่างงดงาม

 

 

หลังคารถได้รับการออกแบบให้มีความโค้งเหนือศีรษะมากขึ้น ซึ่งมอบทั้งสุนทรียศาสตร์และฟังก์ชั่นด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม รูปทรงที่ลู่ลมนี้ช่วยนำอากาศให้ไหลสู่สปอยเลอร์หลัง พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความสูงของห้องโดยสารทั้งในส่วนผู้ขับและผู้โดยสารให้สูงขึ้น

การออกแบบส่วนท้ายรถให้ความสำคัญกับการติดตั้งระบบไฮบริดเครื่องยนต์ V12 ซึ่งเครื่องยนต์ที่ติดตั้งตามแนวยาวแบบเปิดโล่งซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของ Lamborghini Revuelto นี้จะเชื่อมต่อไปยังชุดท่อไอเสียคู่รูปหกเหลี่ยมให้เห็นอย่างชัดเจน และเสริมความโดดเด่นด้วยปีกทรงเรขาคณิต โอบล้อมด้วยชุดไฟหน้ารูปตัววาย “Y” อันเป็นดีไซน์ไฟระดับซิกเนเจอร์ของลัมโบร์กินีดีไซน์รูปตัววาย “Y” เป็นมาตรฐานการออกแบบภายในที่กำหนดให้ผู้ขับมีความสำคัญมากที่สุดตามปรัชญา ‘Feel like a pilot’ ของแบรนด์

 

การตกแต่งภายในยังสะท้อนถึงดีไซน์ใหม่แห่งโลกอนาคตของตัวรถภายนอก โดยทุกองค์ประกอบของห้องโดยสารยังคงแบบฉบับของลัมโบร์กินีอย่างชัดเจน โดยผสานดุลยภาพแห่งประสบการณ์ยุคดิจิทัลเข้ากับสัมผัสทางกายภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเพื่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการพุ่งทะยานในสนามแข่ง จุดรวมสายตาในห้องโดยสารนำเสนอการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์อย่างโดดเด่น ผ่านการออกแบบสไตล์ “ยานอวกาศ” ที่โอบล้อมช่องแอร์กลางและจอแสดงผลทัชสกรีนแนวตั้งขนาด 8.4 นิ้ว

 

การเปิดตัวของ Lamborghini Revuelto ทำให้ลัมโบร์กินีนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ร่วมกันระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารข้าง ๆ ได้อย่างเต็มอารมณ์ โดยรู้สึกเสมือนเป็นนักบินและนักบินร่วม โดยสามารถมองเห็นข้อมูลการขับขี่เดียวกันบนจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วบนฝั่งผู้ขับและจอขนาด 9.1 นิ้วที่ติดตั้งบนแผงหน้าปัดด้านผู้โดยสาร อีกทั้ง Revuelto ยังนำเสนอฟังก์ชั่น “การปัดหน้าจอ” สู่รถยนต์ลัมโบร์กินี ช่วยให้นักบินและนักบินร่วมสามารถเลื่อนแอปพลิเคชันและข้อมูลจากจอแสดงผลกลางไปยังจอด้านข้างได้เหมือนกับการปัดหน้าจอสมาร์ตโฟน จอดิจิทัลทั้ง 3 จอนี้ไม่เพียงมอบความโปร่งโล่งในห้องโดยสารอย่างมีสไตล์ด้วยการขจัดปุ่มกดที่ดูรกตาส่วนใหญ่ให้เหลือน้อยที่สุด แต่ยังมอบฟีเจอร์ใหม่อีกมากมายที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถมีสมาธิจดจ่อกับการขับได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเมื่ออยู่ในรถแข่ง

 

 

การออกแบบพวงมาลัยได้แรงบันดาลใจมาจากโลกมอเตอร์สปอร์ตและประสบการณ์จากรุ่น Essenza SCV12 โดยติดตั้งโรเตอร์สี่ตัวบนก้านพวงมาลัยเพื่อใช้เลือกทั้งโหมดการขับขี่และระบบยกตัวรถและการปรับระดับสปอยเลอร์หลัง การออกแบบห้องโดยสารและระบบควบคุมถูกจัดมาให้ใช้งานง่าย โดยปุ่มต่าง ๆ บนพวงมาลัยจะใช้เพื่อเปิดปิดสัญญาณเลี้ยวและควบคุมของฟังก์ชั่นต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับสามารถจับพวงมาลัยได้อย่างมั่นคงตลอดเวลาในขณะขับขี่

Lamborghini Revuelto มอบภาพลักษณ์ของรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสนามแข่ง ผสานคาแรกเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้ขับขี่ได้ทุกวันพร้อมความสามารถอันโดดเด่นมากมาย และยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษในขั้นตอนการออกแบบเพื่อสร้างห้องโดยสารที่กว้างขวางและใช้งานง่าย หากก็ติดตั้งอุปกรณ์อย่างครบครันให้พร้อมสำหรับการเข้าร่วมในสนามแข่งขันอันเร้าใจ การดีไซน์หลังคาใหม่ยังช่วยเพิ่มความสูงของห้องโดยสารได้มากกว่ารุ่น Aventador Ultimae ถึง 26 มม. ในขณะที่โครงสร้าง Monofuselage มอบพื้นที่วางขาได้กว้างกว่าเดิมอีก 84 มม. จึงช่วยเพิ่มพื้นที่ด้านหลังเบาะนั่งให้มากขึ้น ซึ่งสามารถเก็บสัมภาระขนาดใหญ่เท่ากับถุงกอล์ฟได้อย่างพอดี อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่ใต้ฝากระโปรงหน้าให้สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้มากถึงสองใบ นอกจากนี้ เพื่อยกระดับความสบายของห้องโดยสารให้มากยิ่งขึ้น ยังเพิ่มพื้นที่ใช้งานต่าง ๆ อาทิ ช่องเก็บสัมภาระใต้แผงหน้าปัดกลางและระหว่างเบาะที่นั่ง รวมถึงที่วางแก้วที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างแผงหน้าปัดฝั่งผู้โดยสาร

 

มอบภาพลักษณ์ในแบบฉบับที่เป็นคุณ

Lamborghini Revuelto คือโมเดลการผลิตรถยนต์ลัมโบร์กินีที่มอบทางเลือกในการปรับแต่งรูปลักษณ์ได้มากที่สุด สีรถมีให้เลือกมากถึง 400 เฉดสี ร่วมกับออปชันการปรับแต่งได้อีกมากมายเพื่อรังสรรค์รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตในฝันของลูกค้าแต่ละท่านได้อย่างตรงใจมากที่สุด ซึ่งจิตวิญญาณแห่งรถยนต์สปอร์ตที่ยั่งยืนไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการใช้ระบบไฮบริดในทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสีที่นำมาใช้ทั้งหมดโดยเป็นแบบสูตรน้ำ (Water-based) มากกว่าสูตรน้ำมันเคมี (Solvent-based)

งานออกแบบห้องโดยสารนำเสนอความโดดเด่นจากการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งส่วนแผงหน้าปัด ช่องแอร์รูปหกเหลี่ยม รวมถึงกรอบแผงหน้าปัดและช่องแอร์กลาง งานหุ้มเบาะผสานการใช้หนังเนื้อละเอียดเข้ากับวัสดุสิ่งทอน้ำหนักเบาพิเศษ Corsa-Tex ในผ้าไมโครไฟเบอร์ของ Dinamica® ซึ่งเป็นโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลด้วยกระบวนการผลิตแบบน้ำ ลูกค้ายังสามารถตกแต่งห้องโดยสารได้ตามต้องการ โดยเลือกผสมทั้งวัสดุหนังและ Corsa-Tex หรือเลือกวัสดุที่ต้องการเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีให้เลือกมากถึง 70 เฉดสี

 

สุดยอดแห่งระบบอากาศพลศาสตร์

การออกแบบฟังก์ชั่นและดีไซน์ตัวรถของ Lamborghini Revuelto มีเป้าหมายหนึ่งร่วมกันนั่นคือประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ขั้นสุดยอด ทำให้การวางเลย์เอาต์ของรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นนี้มีหลักการออกแบบที่แตกต่างไปเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Aventador เพราะส่งผลถึงการพัฒนาระบบอากาศพลศาสตร์อย่างชัดเจน การพัฒนานี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแนวคิดหลัก 4 ด้าน ได้แก่ ประสิทธิภาพ การทำงานเสริมกันขององค์ประกอบต่าง ๆ การผสานองค์ประกอบต่าง ๆ เป็นส่วนเดียวกัน และการออกแบบที่เป็นเลิศ

ประสิทธิภาพขั้นสูงสุดเกิดจากการผสานแรงกดระดับสูงเข้ากับแรงต้านซึ่งถูกปรับให้น้อยที่สุด หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การออกแบบนี้คือการใช้สปอยเลอร์หลังแบบแอ็กทีฟรุ่นใหม่ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในทุกสภาวะการขับขี่ และด้วยเหตุผลนี้ ลัมโบร์กินีจึงได้พัฒนาอุปกรณ์หัวฉีดรุ่นใหม่ขึ้นด้วยเพื่อการบริหารแรงกดที่ดีที่สุดในทุก ๆ สถานการณ์ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามโหมดการขับขี่ทั้งสามรูปแบบ

ตำแหน่งของสปอยเลอร์จะเปลี่ยนไปตามโหมดการขับขี่และไดนามิกที่เลือก หรือผู้ขับสามารถปรับให้เป็นสไตล์ที่ต้องการได้เองโดยใช้โรเตอร์ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะและติดตั้งไว้ที่พวงมาลัย โดยตำแหน่งสปอยเลอร์ “ปิด (Closed)” จะเกิดแรงต้านต่ำที่สุดเช่นในการใช้ขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า ตำแหน่งนี้ยังช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุดอีกด้วย เมื่อสปอยเลอร์อยู่ใน “ตำแหน่งแรงต้านต่ำ (Low Drag Position)” จะเกิดแรงต้านต่ำเมื่อขับด้วยความเร็วสูง ช่วยเพิ่มความเร็วสูงสุดพร้อมกับเพิ่มเสถียรภาพได้มากที่สุด สปอยเลอร์ใน “ตำแหน่งแรงกดสูง (High Downforce Position)” จะเพิ่มแรงกด โดยปรับระดับความคล่องตัวและการควบคุมตัวรถ Revuelto ให้เหมาะสมที่สุด

ด้านหน้าของรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นใหม่จาก Sant'Agata นี้มอบความโดดเด่นด้วยสปลิตเตอร์คาร์บอนไฟเบอร์ที่มีลักษณะขอบแผ่ออกรอบด้านตรงส่วนกลางและเอียงลาดลงทางด้านข้าง ซึ่งช่วยสร้างกระแสอากาศเพื่อเพิ่มแรงกดส่วนหน้าตัวรถและทำการเบี่ยงลมให้เลี่ยงส่วนล้อ การออกแบบรูปทรงกลางตัวรถช่วยให้อากาศไหลไปยังครีบ Vortex Generators สี่ตัวหลัง ซึ่งประกอบด้วยแผ่นทรงโค้งแคบที่ติดตั้งอยู่ใต้ตัวถังที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มแรงของกระแสลมที่ปะทะตัวรถด้านล่าง โดยจะช่วยเพิ่มแรงกดและกำหนดทิศทางของกระแสลมให้ไหลไปยังดิฟฟิวเซอร์ประสิทธิภาพสูงอย่างที่ไม่เคยมีในรถยนต์ V12 รุ่นใดมาก่อน ดิฟฟิวเซอร์จะทำหน้าที่ด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยการแยกกระแสลมที่ไหลมาจากใต้ตัวถังผ่านระบบกำหนดช่องทางลมระหว่างส่วนกลางตัวรถซึ่งมีความลาดต่ำ และส่วนท้ายของตัวรถที่มีความลาดเอียงสูง โดยดิฟฟิวเซอร์นี้ยังทำหน้าที่ในเชิงโครงสร้างและช่วยในระบบระบายความร้อนให้กับส่วนเครื่องยนต์อีกด้วย

 

การเสริมประสิทธิภาพขององค์ประกอบต่าง ๆ ร่วมกันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องการระบายความร้อน ซึ่งทำให้ Lamborghini Revuelto โดดเด่นอย่างแตกต่างจากรถยนต์รุ่นอื่น ๆ หม้อน้ำด้านหน้าจะสร้างลมร้อนจึงต้องมีช่องทางระบายที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลถึงการลดประสิทธิภาพของหม้อน้ำด้านข้าง จึงมีการติดตั้งช่องบานเกล็ดระบายลมที่หันออกสู่ด้านนอกไว้บนตะแกรงของหม้อน้ำด้านหน้า เพื่อให้นำลมร้อนไหลออกห่างจากล้อและหม้อน้ำด้านข้าง ในขณะที่ครีบซึ่งติดอยู่แต่ละข้างของกันชนหน้าจะช่วยลดแรงต้านอากาศอีกทางหนึ่ง

องค์ประกอบทุกส่วนล้วนถูกออกแบบและพัฒนาให้เกิดการไหลเวียนอากาศที่ดีที่สุด แม้แต่มือจับประตูก็ยังมีหน้าที่ด้านอากาศพลศาสตร์โดยทำงานร่วมกับปีกรูปตัววาย “Y” ซึ่งเป็นโซลูชันที่สามารถเปลี่ยนทิศทางกระแสลมบริสุทธิ์ที่ไหลผ่านเข้ามาทางฝากระโปรงหน้า ให้ไหลไปยังฟินแนวขวางด้านข้างด้านใดด้านหนึ่งและพัดเข้าหาหม้อน้ำโดยตรง

 

การเสริมประสิทธิภาพขององค์ประกอบต่าง ๆ ที่สำคัญยังเห็นได้อย่างชัดเจนที่การระบายความร้อนของระบบเบรก ซึ่งนำระบบอากาศพลศาสตร์เข้ามาทำงานร่วมด้วย แผ่นกันสะเทือนคู่หน้าและตะแกรงด้านในซุ้มล้อได้ถูกออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่เพียงเพื่อระบายความร้อนเบรกหน้าโดยแผ่นนี้จะช่วยพาอากาศจากดิฟฟิวเซอร์หน้าไปที่เบรกเท่านั้น แต่ยังมีรูปทรงที่ช่วยลดแรงต้านภายในล้อได้ด้วย จึงช่วยจำกัดการบีบอัดและเพิ่มแรงโหลดในส่วนหน้า

นอกจากนี้ ท่อดักอากาศ (NACA) คู่บริเวณด้านหน้าของล้อหลังทั้งสอง ยังคอยเก็บลมจากใต้ท้องรถและส่งตรงไปยังท่อระบายความร้อนของเบรกหลังได้อีกด้วย

หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ก็มีบทบาทสำคัญในด้านอากาศพลศาสตร์ ผ่านการออกแบบโครงสร้างที่เพิ่มความกว้างของห้องโดยสารภายใน โดยดีไซน์รูปทรงปีกซึ่งมีโพรงอากาศตรงกลางจะช่วยนำลมไปยังท่อดักลมด้านหลังและไหลต่อไปยังอุปกรณ์แปลงกระแสไฟ (Inverter) และมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ด้านบนชุดเกียร์ นอกจากนี้ ด้านข้างของหลังคายังยกพื้นที่เหนือศีรษะให้สูงขึ้นทั้งในส่วนผู้ขับและผู้โดยสาร

 

เทคโนโลยีโครงสร้าง Monofuselage

Lamborghini Revuelto ใช้นวัตกรรมโครงสร้างใหม่ล่าสุด “Monofuselage” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวถัง Monocoque ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและผลิตด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด โดย Monofuselage มีโครงสร้างส่วนหน้าเป็น Forged Composites ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษที่ผลิตจากชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดเล็กชุบด้วยเรซิ่น โดยลัมโบร์กินีได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้และเริ่มใช้ในการผลิตโครงสร้างครั้งแรกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008

โครงสร้าง Monofuselage แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญต่อจากรุ่น Aventador ทั้งในด้านประสิทธิภาพความแข็งแรงและทนต่อแรงบิด คุณสมบัติน้ำหนักเบา และพลศาสตร์การขับขี่ นอกจากนี้ Revuelto ยังเป็นรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นแรกที่ใช้โครงสร้างส่วนหน้าเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ 100% โดยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ยังใช้กับโครงรูปโคนส่วนหน้าเพื่อยกระดับการดูดซับพลังงาน ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างโลหะแบบดั้งเดิม และมากกว่าเป็นสองเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงส่วนหน้าแบบอลูมิเนียมของรุ่น Aventador บวกกับคุณสมบัติน้ำหนักที่เบาลงอย่างมาก

โครงสร้าง Monofuselage ของ Revuelto มีน้ำหนักเบากว่าโครงแชสซีของรุ่น Aventador ถึง 10% และโครงส่วนหน้าเบากว่าโครงอลูมิเนียมของรุ่นก่อนหน้าถึง 20% นอกจากนี้ ความแข็งแรงและทนต่อแรงบิดยังเพิ่มขึ้นไปที่ 40,000 Nm/° ซึ่งสูงขึ้น 25% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Aventador ซึ่งการันตีสมรรถนะที่เป็นเลิศด้านพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในคลาสอีกด้วย

การผลิตโครงหลังคายังคงใช้เทคโนโลยีการผลิตจากเครื่อง Autoclave ซึ่งไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพความแข็งแกร่งลดลง เทคโนโลยีดังกล่าวได้ถูกผสานเข้ากับมาตรฐานด้านเทคนิค ความงาม และคุณภาพระดับสูง เสริมด้วยงานฝีมือในกระบวนการขึ้นรูปที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงซึ่งสั่งสมจากประสบการณ์นานนับปีในการผลิตชิ้นส่วนคอมโพสิตของบริษัทซึ่งมุ่งเน้นที่คุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ถือเป็นแนวทางการผลิตที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกแบบหลังคาได้หลากหลายและตรงใจมากที่สุด

โครงสร้างแชสซีส่วนท้ายผลิตจากอลูมินัมอัลลอย์คุณภาพสูงและมีการสร้างโพรงสองตำแหน่งสำคัญในส่วนโดมท้ายรถ โดยสิ่งนี้จะช่วยผสานการทำงานของระบบช่วงล่างส่วนหลังและระบบส่งกำลังให้เป็นหนึ่งเดียว โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อการลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแกร่ง และลดจุดเชื่อมต่อของโครงสร้างได้อย่างมาก 

 

ระบบส่งกำลังและการวางเลย์เอาต์รูปแบบใหม่

Lamborghini Revuelto ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ V12 แบบไร้ระบบอัดอากาศขนาด 6.5 ลิตร บริเวณกลางตัวรถ มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวแรกจะอยู่ที่เพลาขับคู่หน้า และอีก 1 ตัวจะติดตั้งอยู่กับชุดเกียร์ดับเบิลคลัชต์ 8 สปีดรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ชุดเกียร์ถูกติดตั้งอยู่หลังเครื่องยนต์ โดยเป็นการติดตั้งแนวขวางอยู่ด้านหลังเครื่องยนต์สันดาป V12 เป็นครั้งแรก ส่วนพื้นที่ของอุโมงค์เกียร์ที่มีมาตั้งแต่รุ่น Countach ถูกแทนที่ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนพลังสูงเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถช่วยจ่ายไฟให้กับเครื่องได้ในขณะทำงานรอบต่ำและสามารถเปลี่ยน Revuelto ให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รวมได้ถึง 30%

Lamborghini Revuelto ยังนำเสนอสถาปัตยกรรมโครงสร้างแบบไฮบริดที่ไม่เคยมีมาก่อนรวมถึงเครื่องยนต์ V12 เจนใหม่ และเป็นการเปิดตัวรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตระบบไฮบริดในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) รุ่นแรกที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไฟสูงน้ำหนักเบา โดยติดตั้งในท่อส่งกำลังที่อยู่ส่วนกลางของโครงแชสซี ซึ่งถือเป็นโซลูชันใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการปล่อยไอเสีย เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ V12 ที่ผ่านมา พร้อมกับการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ในระดับสูงสุด

เครื่องยนต์ L545 รุ่นใหม่นี้มีความจุ 6.5 ลิตร โดยเป็นเครื่อง12 สูบที่เบาที่สุด ให้กำลังสูงสุดเท่าที่ลัมโบร์กินีเคยผลิตมา โดยมีน้ำหนักรวมเพียง 218 กิโลกรัม Revuelto เปลี่ยนมุมติดตั้งเครื่องยนต์ถึง 180 องศา โดยเครื่องยนต์ Superquadro V12 มอบกำลัง 825 CV ที่ 9,250 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นผลมาจากระบบจ่ายกำลังเครื่องรุ่นใหม่ที่รองรับรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 9,500 รอบต่อนาที โดยมีค่ากำลังจำเพาะอยู่ที่ 128 CV ต่อลิตร ถือว่าเป็นกำลังเครื่องที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของเครื่องยนต์ 12 สูบของลัมโบร์กินี ให้แรงบิดสูงสุดถึง 725 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที

ท่อดักอากาศได้รับการออกแบบโครงสร้างใหม่เพื่อเพิ่มปริมาณอากาศและเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศสู่ห้องเผาไหม้ให้ดียิ่งขึ้น การเผาไหม้ในห้องเครื่องประสิทธิภาพสูงสุดยังมาจากระบบควบคุมการแตกตัวของประจุในห้องเครื่องผ่านหน่วยควบคุม 2 ยูนิต ระบบการสันดาปใหม่มีอัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้น ท่อไอเสียได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อการไหลเวียนของไอเสียเมื่อเครื่องมีกำลังรอบสูงได้ดีขึ้นและเพิ่มกำลังเครื่องจำเพาะให้สูงขึ้น

 

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า

Lamborghini Revuelto มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์สันดาปภายในมอบกำลังให้กับล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ก็จะมอบกำลังให้กับเพลาหน้า โดยมอเตอร์แต่ละตัวจะสร้างแรงดึงกับล้อหน้าแต่ละข้าง นอกจากนี้ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สามที่วางอยู่เหนือชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์ 8 สปีด ช่วยส่งแรงให้ล้อหลัง โดยขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่เลือกและสภาพของพื้นถนน

แรงบิดรวมจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว มอบสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นเหนือใครแม้ในหมู่รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 725 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน และอีก 350 นิวตันเมตรจากมอเตอร์หน้าแต่ละตัว เมื่อรวมแล้วจะสามารถมอบกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 1,015 CV เลยทีเดียว

มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวด้านหน้าเป็นมอเตอร์แกนฟลักซ์แบบน้ำมันหล่อเย็นและให้อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าดีเยี่ยมที่ 18.5 กิโลกรัมจากมอเตอร์ 110 กิโลวัตต์แต่ละตัว นอกจากการส่งกำลังแก่ล้อหน้าแต่ละข้าง ยังมีฟังก์ชั่นกระจายแรงบิด (Torque Vectoring) เพื่อยกระดับพลศาสตร์การขับขี่และกู้พลังงานจากการเบรก โดยเมื่อเลือกโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้า Revuelto จะขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าเท่านั้นเพื่อลดอัตราการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ซึ่งในขณะขับด้วยระบบไฟฟ้า เพลาหลังจะทำงานเฉพาะเมื่อถูกสั่งการในสถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น

 

ประสิทธิภาพการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์

Lamborghini Revuelto ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังสูง (4,500 วัตต์ต่อกิโลกรัม) ไว้บริเวณท่อแกนกลาง ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงได้ต่ำสุดและมั่นใจได้ถึงการกระจายน้ำหนักที่ดีเยี่ยม ตัวแบตเตอรี่ได้รับการปกป้องโดยชั้นโครงสร้างส่วนล่างและเชื่อมต่อไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้า มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลัง และหน่วยชาร์จไฟที่รวมไว้ในระบบ

แบตเตอรี่มีความยาว 1,550 มม. สูง 301 มม. และกว้าง 240 มม. บรรจุเซลล์พลังงานรวมความจุ 3.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เมื่อประจุลดลงเหลือศูนย์ สามารถชาร์จใหม่ได้ทั้งการใช้กระแสสลับและแบบชาร์จในบ้านที่มีกระแสสูงสุด 7 กิโลวัตต์ โดยชาร์จเต็มในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จไฟจากการเบรกของล้อหน้าที่ช่วยประจุไฟได้ หรือชาร์จโดยตรงจากเครื่องยนต์ V12 ในเวลาเพียง 6 นาที

 

ระบบเกียร์ที่ล้ำหน้า

ลัมโบร์กินีพัฒนาหน่วยส่งกำลังขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ข้อกำหนดเรื่องพลังงานไฟฟ้าแรงสูงได้ ซึ่งพัฒนาและออกแบบโดยทีมงานภายในบริษัทลัมโบร์กินีทั้งหมด และหลังจากติดตั้งใช้งานใน Revuelto อุปกรณ์นี้จะถูกนำไปใช้ในรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นต่อไปที่จะผลิตใน Sant’Agata Bolognese แห่งนี้ ตลอดจนยังนำระบบคลัตช์คู่แบบเปียกในการสร้างโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและเน้นการเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์เป็นหลัก เพื่อให้สามารถสร้างแรงบิดสูงสุดถึง 725 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาทีจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน

ชุดเกียร์ 8 สปีดรุ่นใหม่ถูกวางตำแหน่งตามขวางด้านหลังเครื่องยนต์ V12 ที่วางตามแนวยาว เพื่อเว้นเนื้อที่ในท่อระบบส่งกำลังสำหรับการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่จะเป็นตัวให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้า ถือเป็นโซลูชันทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยมในโลกรถยนต์สมรรถนะสูง และยกระดับให้ลัมโบร์กินีขึ้นแท่นผู้นำด้านวิศวกรรมยานยนต์อีกครั้ง การวางเลย์เอาต์ลักษณะนี้ยังช่วยรักษาตำแหน่งของฐานล้อและเสริมการกระจายน้ำหนักให้ดีขึ้น เพื่อเสริมระบบพลศาสตร์การขับขี่ให้ดีที่สุด

 

โครงสร้างภายในของชุดเกียร์รุ่นใหม่นี้มีชาฟต์พิเศษ 2 ชิ้นซึ่งตรงข้ามกับตามปกติที่มี 3 ชิ้น ชิ้นหนึ่งทำหน้าที่ควบคุมเกียร์เลขคู่ อีกชิ้นควบคุมเกียร์เลขคี่ โดยทั้งสองชิ้นทำงานกับโรเตอร์ตัวเดียวกัน การวางเลย์เอาต์ลักษณะนี้ยังช่วยลดน้ำหนักรวมและประหยัดพื้นที่ได้อย่างมาก การพัฒนาระบบส่งกำลังดับเบิลคลัตช์ (Double Clutch Transmission: DCT) 8 สปีด เกิดจากแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่สามารถมอบทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการขับขี่แนวสปอร์ต อย่างการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว ในขณะที่การทำงานร่วมกันของทั้ง 8 สปีดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและความสามารถในการขับขี่ในขณะโลดแล่น โดยมีฟีเจอร์พิเศษอย่าง “การลดเกียร์ต่อเนื่อง” ซึ่งสามารถลดเกียร์ทีละหลายสเต็ปเมื่อทำการเบรกได้อย่างง่ายดายเพียงกดค้างที่แป้นด้านซ้าย ซึ่งทำให้ผู้ขับรู้สึกถึงการควบคุมที่สมบูรณ์แบบ

เมื่อไม่นับรวมชิ้นส่วนระบบไฟฟ้า ชุดเกียร์ DCT รุ่นใหม่นี้จะมีน้ำหนักเบากว่าและเร็วกว่าในการเปลี่ยนเกียร์เมื่อเปรียบเทียบกับระบบดับเบิลคลัตช์ 7 สปีดที่ใช้ในตระกูล Huracán การวางเลย์เอาต์แนวขวางยังช่วยเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างขวางกว่า จึงมีเนื้อที่ด้านหลังคนขับและผู้โดยสารที่โปร่งตาและผ่อนคลายมากขึ้น

ชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์มีขนาดกะทัดรัดมาก โดยยาวเพียง 560 มม. กว้าง 750 มม. และสูง 580 มม. เท่านั้น น้ำหนักรวมเพียง 193 กิโลกรัม ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนพื้นฐานใหม่ในโครงสร้างรถยนต์ไฮบริดด้วย นั่นคือมอเตอร์ไฟฟ้าส่วนหลังซึ่งมีกำลังไฟสูงสุด 110 กิโลวัตต์และแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร

 

มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านบนชุดเกียร์ทำหน้าที่สองด้าน ทั้งเป็นมอเตอร์สตาร์ตและเจเนอเรเตอร์ รวมถึงจ่ายพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าส่วนหน้าผ่านทางแบตเตอรี่ในท่อระบบส่งกำลัง เมื่อเปลี่ยนมาใช้โหมดไฟฟ้าทั้งหมด มอเตอร์นี้ยังส่งกำลังให้กับล้อหลัง ซึ่งนอกจากเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ยังทำให้การขับเคลื่อนสี่ล้อมีอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ การปรับฟังก์ชั่นการทำงานให้สอดคล้องตามโหมดการขับขี่นี้เกิดจากการกลไกแบบแยกส่วนที่ควบคุมผ่านตัวประสานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์  โดยในขณะส่งกำลังเสริมให้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน V12 มอเตอร์ไฟฟ้านี้จะอยู่ในตำแหน่ง P3 โดยแยกตัวจากชุดเกียร์ และจะเคลื่อนไปอยู่ตำแหน่ง P2 เพื่อชาร์จไฟแก่แบตเตอรี่ในขณะวิ่งด้วยความเร็วต่ำและจอดนิ่ง จึงทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตาร์ตด้วย

เมื่ออยู่ในตำแหน่ง P3 นั้น Revuelto จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนสี่ล้อในทันที ขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่เลือก จึงถือเป็นการสานต่อมาตรฐานการขับเคลื่อนสี่ล้อของลัมโบร์กินีที่มีอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ไปพร้อมกัน เกียร์ถอยหลังจะทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวหน้า ซึ่งหากจำเป็นต้องการแรงเสริม มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังก็จะเข้ามาช่วยเสริมแรงโดยส่งกำลังให้เพลาและล้อหลัง ผลลัพธ์ก็คือ Revuelto จะสามารถขับเคลื่อนสี่ล้อโดยมีอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ แม้ในขณะถอยหลังบนพื้นถนนที่มีแรงยึดเกาะต่ำก็ตาม

 

สุดยอดประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ

Lamborghini Revuelto ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์สุดเร้าใจและการควบคุมที่สมบูรณ์แบบในทุกสภาพถนนและโหมดการขับขี่ สร้างความรู้สึกที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ พร้อมยกระดับความมั่นใจที่ไม่มีนักขับคนไหนเคยสัมผัสมาก่อน

นวัตกรรมที่ถูกนำมาติดตั้งใน Lamborghini Revuelto ล้วนเป็นสุดยอดเทคโนโลยีของแต่ละด้าน โครงแชสซีและการออกแบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง ไปจนถึงระบบส่งกำลังแบบไฮบริดรุ่นใหม่ที่ช่วยเสริมกำลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนสามารถสร้างโหมดการขับขี่ใหม่ ๆ มากมาย รวมถึงโหมดการขับเคลื่อนสี่ล้อที่ปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ เพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างกันได้มากถึง 13 รูปแบบ

Lamborghini Revuelto ใช้เลย์เอาต์การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยติดตั้งเครื่องยนต์ V12 แบบไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 6.5 ลิตร บริเวณกลางตัวรถและมีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวแรกจะอยู่ที่เพลาขับคู่หน้า และอีก 1 ตัวถูกติดตั้งอยู่กับชุดเกียร์ดับเบิลคลัชต์ 8 สปีดรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ชุดเกียร์ถูกติดตั้งอยู่หลังเครื่องยนต์ โดยเป็นการติดตั้งแนวขวางอยู่ด้านหลังเครื่องยนต์สันดาป V12 เป็นครั้งแรก ส่วนพื้นที่ของอุโมงค์เกียร์ที่มีมาตั้งแต่รุ่น Countach ถูกแทนที่ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนพลังสูงเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า

สถาปัตยกรรมโครงสร้างรูปแบบใหม่ช่วยให้กระจายน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังมีน้ำหนักเข้าใกล้จุดศูนย์ถ่วงมากที่สุดและยังลดความยาวของฐานล้ออีกด้วย ส่งผลให้การกระจายน้ำหนักมีความสมดุลและมีความสมบูรณ์แบบ Revuelto จึงมีความคล่องตัวสูงและขับขี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งบนพื้นถนนทั่วไปและในสนามแข่งอันคดเคี้ยว ทั้งยังเสริมคุณสมบัติการกระจายน้ำหนักด้วยการเพิ่มระดับความแข็งของเหล็กกัน และลดอัตราทดเฟืองพวงมาลัย นอกจากนี้ Revuelto ยังยกระดับขีดความสามารถด้วยระบบบังคับเลี้ยว ซึ่งช่วยเพิ่มสัมผัสการควบคุมที่ฉับไว ตอบสนองเร็วทันใจ และเปี่ยมด้วยความคล่องตัวสูงโดยยังรู้สึกได้ถึงเสถียรภาพและแม่นยำในทุกจังหวะการขับขี่ รวมถึงจากการใช้ยาง Bridgestone Potenza Sport ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ ซึ่งมอบพื้นที่ด้านหน้าที่กว้างขึ้น

ด้วยการติดตั้งเพลาไฟฟ้า (e-axle) ใน Revuelto ทำให้ลัมโบร์กินีสามารถนำระบบกระจายแรงบิดไฟฟ้ามาใช้งานเป็นครั้งแรก ที่ทำงานร่วมกับระบบ Lamborghini Dinamica Veicolo 2.0 อย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยระบบกระจายแรงบิดไฟฟ้าช่วยเพิ่มความฉับไวให้กับตัวรถเมื่อต้องเข้าโค้งที่แคบ รวมถึงเพิ่มเสถียรภาพเมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงโดยช่วยกระจายแรงบิดในแต่ละล้อได้อย่างดีเยี่ยมและยังทำงานสอดคล้องกับระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อ นอกจากนี้ ระบบกระจายแรงบิดไฟฟ้ารุ่นใหม่ยังแตกต่างจากแบบเดิม โดยระบบจะช่วยเบรกเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดและเสริมการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติตลอดจนสมรรถนะที่สูงขึ้น โดยเมื่อทำการเบรก เพลาไฟฟ้า (e-axle) และมอเตอร์ไฟฟ้าตัวท้ายจะช่วยชะลอความเร็ว ลดแรงกดบนเบรกไปพร้อมกับการชาร์จแบตเตอรี่ในเวลาเดียวกัน

 

ระบบเบรกและการระบายความร้อนเบรกได้รับการออกแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์สถานการณ์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ Revuelto นำเสนอระบบเบรก CCB Plus (Carbon Ceramic Brakes Plus) รุ่นใหม่ล่าสุด โดยคาลิเปอร์เบรกหน้าซึ่งใช้ลูกสูบเบรกถึง 10 ตัว แทนที่จะเป็น 6 ตัว ถูกติตตั้งร่วมกับจานเบรกขนาด 410x38 มม. ส่วนคาลิเปอร์เบรกหลังใช้ลูกสูบเบรก 4 ตัวและจานเบรกขนาด 390x32 มม. จานเบรกยังเคลือบทับด้วยชั้นป้องกันการเสียดสี เพื่อสร้างประสิทธิภาพการเบรก การบริหารอุณหภูมิ และการควบคุมเสียงเบรกที่ดียิ่งขึ้น

แผ่นกันสะเทือนคู่หน้าและตะแกรงด้านในซุ้มล้อได้ถูกออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่เพียงสำหรับการระบายความร้อนเบรกหน้าโดยแผ่นนี้จะช่วยนำอากาศจากดิฟฟิวเซอร์หน้าไปที่เบรกเท่านั้น แต่ยังมีรูปทรงที่ช่วยลดแรงต้านภายในล้อได้เช่นกัน จึงช่วยจำกัดการบีบอัดและเพิ่มแรงโหลดในส่วนหน้า นอกจากนี้ ท่อดักอากาศ (NACA) คู่บริเวณด้านหน้าของล้อหลังทั้งสองข้าง ยังคอยเก็บลมจากใต้ท้องรถและส่งตรงไปยังท่อระบายความร้อนของเบรกหลังให้อีกด้วย

สิ่งที่เปิดตัวพร้อมกับระบบไฮบริดคือ 3 โหมดการขับขี่รูปแบบใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ได้แก่ Recharge, Hybrid และ Performance เพื่อใช้ร่วมกับโหมดเดิมอย่าง Città (City), Strada, Sport และ Corsa ซึ่งสามารถเลือกปรับได้ด้วยการใช้โรเตอร์ 2 ตัวบนพวงมาลัยที่ออกแบบใหม่ ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดจะสามารถตั้งค่าไดนามิกได้ถึง 13 รูปแบบ เพื่อให้ Revuelto แสดงบุคลิกและศักยภาพที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์และสภาพพื้นถนน หรือแม้แต่บนสนามแข่งขันที่รถยนต์กำลังพุ่งทะยานอยู่

 

ล้ำหน้าด้วยอินเตอร์เฟซใหม่ (HMI) อินโฟเทนเมนต์ครบครัน การเชื่อมต่อออนไลน์ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS)

Lamborghini Revuelto นำเสนออินเตอร์เฟซ Human Machine Interface (HMI) ที่ออกแบบใหม่ในทุกรายละเอียด ประกอบด้วยจอแสดงผล 3 ตำแหน่ง ได้แก่ จอบริเวณแผงหน้าปัดขนาด 12.3 นิ้ว จอแสดงผลกลางขนาด 8.4 นิ้ว และจอเสริมขนาด 9.1 นิ้ว มอบรูปลักษณ์ใหม่ที่สดใสกว่าทั้งภาพกราฟิก 3D ภาพเคลื่อนไหว วิดเจ็ต และสไตล์การปรับแต่งต่าง ๆ ซึ่งจอแสดงผลทั้งสามถูกควบคุมโดย “สมองกล” ตัวเดียว ซึ่งใช้ดีไซน์อินเตอร์เฟซแบบเดียวกันทุกจอ ทำให้ผู้ใช้ไม่เกิดการสับสนกับอินเตอร์เฟซบนจอต่าง ๆ ทั้งในเรื่องสีสันและรูปภาพ ตลอดจนมีปฏิกิริยาที่สอดคล้องกัน

ระบบอินโฟเทนเมนต์รูปแบบใหม่ของ Revuelto มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ช่วยให้นักขับสามารถปรับแต่งและสร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ลัมโบร์กินีที่เปี่ยมด้วยสุนทรียภาพและดื่มด่ำได้อย่างเต็มอารมณ์โดยใช้เพียงการลากสองนิ้วไปบนหน้าจอ ผู้ใช้สามารถย้ายเนื้อหาอินโฟเทนเมนต์ไปยังจอต่าง ๆ ทั้งจอบริเวณแผงหน้าปัดหรือจอฝั่งผู้โดยสาร ด้วยการปัดหน้าจอแบบเดียวกัน นอกจากนี้ ยังสามารถบันทึกฟีเจอร์การใช้โปรดได้ เพื่อให้ครั้งต่อไปสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว

 

งานออกแบบพวงมาลัยใหม่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปฏิกิริยาระหว่างนักขับกับพวงมาลัยในรถแข่งรุ่น Squadra Corse ซึ่งให้ความรู้สึกราวกับห้องนักบิน อุปกรณ์ควบคุมที่เพิ่มเติมเข้ามาช่วยให้สามารถควบคุมไดนามิกของตัวรถและคำสั่งมัลติมีเดียได้อย่างง่ายดายด้วยการขยับมือเพียงเล็กน้อย โดย Revuelto ยังมีจอแสดงผลข้อมูลไดนามิกการขับขี่บนฝั่งผู้โดยสาร ซึ่งทำให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รู้สึกราวกับเป็นนักบินร่วมบนเส้นทางเดียวกัน

ระบบนำทางได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมด โดยมีการดาวน์โหลดแผนที่แบบเรียลไทม์ เพื่อให้นักขับมั่นใจได้ว่าข้อมูลของพื้นที่นั้น ๆ เป็นเวอร์ชั่นที่อัปเดตเสมอ การคำนวณเส้นทางและกลไกการค้นหาสถานที่ก็สามารถทำงานได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญผ่านเชิร์ฟเวอร์ออนไลน์ ระบบนำทางยังผสานข้อมูลการจราจร สภาพภูมิอากาศแบบเรียลไทม์ รวมถึงข้อมูลที่จำเป็นต่าง ๆ อาทิ ข้อมูลสถานที่น่าสนใจซึ่งมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงข้อมูลลานจอดรถ ปั๊มน้ำมัน และสถานีชาร์จไฟบนเส้นทาง นอกจากเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง ระบบยังแสดงข้อมูลอื่น ๆ อาทิ เวลาเปิดให้บริการ ราคา รายละเอียดการใช้งาน และข้อมูลอื่น ๆ ไว้อย่างครบครัน

โปรแกรมผู้ช่วย Amazon Alexa จะช่วยให้นักขับเข้าถึงฟังก์ชั่นการควบคุมตัวรถได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการปรับอุณหภูมิ การนำทาง และสื่อต่าง ๆ ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง โดยฟังก์ชั่นเหล่านี้อยู่นอกเหนือจากฟังก์ชั่นมาตรฐานของ Alexa ที่ใช้เพื่อความบันเทิงและการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ตโฮมทั่วไป โดยโปรแกรม Alexa ใน Lamborghini Revuelto ยังผสานฟังก์ชั่น What3Words ซึ่งทำงานร่วมกับระบบนำทางที่ติดตั้งมากับตัวรถ ทำให้สามารถขับขี่ไปได้ทุกที่บนโลก แม้สถานที่นั้นจะไม่มีข้อมูลที่อยู่ที่ชัดเจนก็ตาม 

Lamborghini Revuelto นำเสนอระบบความบันเทิงนวัตกรรมใหม่ภายใต้ดีไซน์ออริจินัลของลัมโบร์กินี ระบบวิทยุดาวเทียมแบบใหม่สามารถค้นหาคลื่นสัญญาณได้นับพันสถานี โดยสามารถตั้งค่าการค้นหาได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะค้นหาเฉพาะเรื่องที่อยู่ในกระแสความนิยม ค้นหาตามหมวดหมู่ หรือเนื้อหาของแต่ละประเทศ ซึ่งระบบวิทยุดาวเทียม SiriusXM 360L (สำหรับตลาดสหรัฐฯ) เป็นเวอร์ชั่นที่อัปเกรดประสิทธิภาพอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับระบบเดิมอย่าง SiriusXM สามารถนำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับความชื่นชอบของผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นรายการโชว์ พอดคาสต์ ไปจนถึงรายการสตรีมมิ่งอย่าง Pandora และ Xtra

การเชื่อมต่อของระบบอินโฟเทนเมนต์ใน Lamborghini Revuelto ยังสามารถพัฒนาประสิทธิภาพด้วยตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบการอัปเดตตัวเองผ่านซอฟต์แวร์ Over-the-Air ที่ติดตั้งมาในเครื่อง ทำให้รถยนต์มีระบบที่อัปเดตและเนื้อหาที่ทันสมัยอยู่เสมอ ระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นนี้สามารถรองรับการอัปเดตไม่เฉพาะที่จอแสดงผลอินโฟเทนเมนต์เท่านั้น แต่สามารถอัปเดตจอที่แผงหน้าปัดและจอแสดงผลฝั่งผู้โดยสารได้อีกด้วย

 

Lamborghini Revuelto ยังสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันพิเศษอื่น ๆ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้จึงสามารถเลือกปรับแต่งการใช้งานเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่ได้ดังใจ และด้วยการให้ความสำคัญอย่างมากกับความปลอดภัยของลูกค้า Lamborghini Revuelto จึงติดตั้งระบบโทรศัพท์ฉุกเฉินและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินไว้กับตัวรถ ซึ่งจะทำงานทันทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยระบบติดตามรถยนต์ Lamborghini Connect ยังสามารถตรวจจับการใช้งานรถยนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งไม่เพียงแจ้งไปยังเจ้าของรถ แต่ยังติดต่อไปยังศูนย์ความปลอดภัยที่เปิดรับสัญญาณตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการติดตามรถยนต์กลับคืน Lamborghini Revuelto ใช้งานได้ทั่วโลกโดยรองรับได้มากกว่า 30 ภาษา เพื่อมอบประสบการณ์ที่ถูกต้องแม่นยำและมั่นใจได้ในทุก ๆ ประเทศ

เจ้าของรถยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับ Lamborghini Revuelto ได้อย่างต่อเนื่องแม้ดับเครื่องยนต์ไปแล้ว ด้วยการใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน Lamborghini Unica ที่ช่วยให้นักขับสามารถตรวจสอบสถานะต่าง ๆ ของรถได้ตลอดเวลา ทั้งระดับเชื้อเพลิง การชาร์จแบตเตอรี่ ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง รวมถึงตำแหน่งการจอดที่แน่นอน แอป Unica ยังมีชุดควบคุมรถยนต์ระยะไกล เช่น การล็อกและปลดล็อกประตู การเปิดเสียงแตรหรือเปิดแสงไฟ โดยบางฟังก์ชั่นยังสามารถสั่งได้ทาง Apple Watch เจ้าของรถจึงสามารถควบคุมรถยนต์ของตัวเองได้แม้มีคนอื่นขับอยู่ก็ตาม ทั้งการกำหนดระดับความเร็วสูงสุด รวมถึงการใช้งานต่อชั่วโมงและขีดจำกัดการใช้งานผ่านตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ซึ่งถ้ารถยนต์วิ่งเร็วเกินระดับความเร็วที่กำหนดไว้ในเขตพื้นที่หนึ่ง ๆ หรือใช้งานนานกว่าเวลาที่กำหนด เจ้าของรถจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางแอป

Lamborghini Revuelto มอบความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ลูกค้า โดยข้อมูลที่ถูกส่งระหว่างรถยนต์กับระบบคลาวด์จะได้รับการปกป้องตามมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ลูกค้ายังสามารถควบคุมได้ว่าจะแชร์ข้อมูลใดบ้างด้วยการกำหนดความเป็นส่วนตัวทั้ง 6 ระดับตามหลักเกณฑ์

นอกจากนี้ลัมโบร์กินียังนำระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS (Advanced Driver Assistance System) มาใช้ใน Revuelto เป็นครั้งแรก ซึ่งรวมถึงฟังก์ชั่นขั้นสูงเพื่อการเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ประจำวัน ซึ่งเกิดจากการทำงานผสานกันทั้งระบบกล้อง เรดาห์ และเซ็นเซอร์ ซึ่งชุดความปลอดภัยยังมีระบบเตือนเมื่อออกนอกช่องเดินรถพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Active Lane Departure Warning (ALDW) ซึ่งจะตรวจจับเส้นแบ่งช่องเดินรถและปรับวงล้อให้เหมาะสมหากผู้ขับเผลอขับข้ามช่อง นอกจากนี้ ระบบเตือนเมื่อเปลี่ยนช่องเดินรถ Lane Change Warning (LCW) จะตรวจจับจุดบอดและเตือนผู้ขับถึงอันตรายก่อนที่จะเปลี่ยนช่องทาง ส่วนระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) จะควบคุมความเร็วรถและระยะห่างกับรถคันหน้า โดยจะช่วยทั้งในการเร่งความเร็วและเบรกรถให้โดยอัตโนมัติ

Lamborghini Revuelto ยังติดตั้งระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) โดยเมื่อทำการถอยรถ อุปกรณ์จะเตือนนักขับหากมีสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหลัง และทำการเบรกเมื่อใกล้จะเกิดการชนปะทะ นอกจากนี้ ระบบกล้องยังแสดงภาพด้านหลังรถและด้านบนที่จอแสดงผลบริเวณแผงหน้าปัด ทำให้นักขับไม่เพียงมองเห็นด้านหลังรถ แต่ยังเห็นภาพจำลองของรถทั้งคันเมื่อมองจากด้านบน