NISSAN NAVARA 2024

ปรับใหม่ เสริมความหรู คู่ความลุย

ได้เวลาที่เหมาะสม สำหรับ Nissan ปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ราคาเบาที่สุดในเซ็กเมนท์ กับความพยายามของทางนิสสันอีกครั้ง ในการปรับในเรื่องของอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกในรถ ให้เหมาะสมกับความต้องการลูกค้า ในราคาที่เหมาะสม ในเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ Nissan NAVARA  2024 กับภายในห้องโดยสารแบบใหม่ที่เน้น เสริมความหรู คู่ความลุย

รูปลักษณ์คงเดิม บุคลิกแตกต่างกันไป ในแต่ละรุ่นย่อย

ดีไซน์ภายนอก นาวารายังคงรักษาเอกลักษณ์ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูแข็งแกร่ง ทนทาน ตั้งแต่ด้านหน้าที่ดูดุดันแฝงความทันสมัย ตลอดไปจนเส้นสายของตัวถังด้านข้างและด้านท้ายรถ พร้อมประโยชน์ใช้สอยที่พร้อมลุยในทุกสภาพการขับขี่ กระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อค ไฟหน้า Quad-Eye LED คุณภาพสูง พร้อมไฟ Daytime Running Light และไฟท้าย LED แบบ Guide light ที่โดดเด่นเห็นได้ชัดเจน ซุ้มล้อขนาดใหญ่สไตล์รถออฟโรด

โดยสำหรับในรุ่น PRO-4X และ PRO-2X จะมาพร้อมกระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบ Quad-Eye LED และไฟ DLR  ล้ออัลลอยพร้อมยางแบบออลเทอเรน เสาอากาศดีไซน์ใหม่แบบ shark fin ที่ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิมเพิ่มลุคทันสมัย ตัวถังยกสูงช่วยให้ผู้ขับขี่ลุยได้ทุกเส้นทาง  ส่วนในโฉมแบล็ค อิดิชั่น  (Black Edition) จะมีในรุ่นนิสสันคาลิเบอร์ คิงแค็บ และดับเบิลแค็บ ที่เพิ่มความเท่ด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว กระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อคสีดำ สติ๊กเกอร์ Black Edition และกระจกมองข้างสีดำเพิ่มลุคสปอร์ต

ในรุ่นย่อย คาลิเบอร์ ทางเลือกก็มีให้ ทั้งในตัวถังแบบคิงแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ เพิ่มความสปอร์ตด้วยซุ้มล้อสุดเท่ และบึกบึน ด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และกระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อค ส่วนในรุ่นย่อย คิงแค็บ ก็โดดเด่นด้วยพื้นที่บรรทุกมาก ระบบช่วงล่างช่วยให้บรรทุกของได้มากขึ้นต่อการขนแต่ละครั้ง จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการต้นทุนการขนส่ง 

ในเรื่อง ของสมรรถนะและการบรรทุกหนัก Nissan NAVARA 2024  ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความแข็งแกร่ง และการบรรทุกหนักด้วยโครงสร้างแชสซีทำจากเหล็กกล้า มีพื้นที่บรรทุกของที่เน้นให้ประโยชน์การใช้งาน และความสะดวกเต็มพิกัด เช่น บันไดที่กันชนหลังซึ่งช่วยให้เข้าออก และขนของที่กระบะได้สะดวก รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก

นอกจากนี้ ยังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้ตกแต่งรถในสไตล์ของตนเองด้วยอุปกรณ์เสริม Utility Package ชุดใหญ่ กับคิ้วกันสาดประตู กันรอยมือเปิดประตูลายคาร์บอน ชุดคิ้วบันไดสเตนเลส ชุดพรมพร้อมยางปูพื้น และยังมีสีภายนอกให้เลือกแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ตั้งแต่สีเทา Stealth Gray ที่เป็นซิกเนเจอร์  สีทองแดง Forged Copper สีแดง Burning Red สีดำ Black Star สีเทา Twilight Gray  สีเงิน Brilliant Silver สีขาว White Pearl และ Solid White

ภายในลุคใหม่ ในแบบโมเดิร์นหรู

จุดขายไฮไลท์ ของ Nissan NAVARA 2024 อยู่ที่ห้องโดยสารที่มาในลุคใหม่กับคอนโซลหน้าดีไซน์โมเดิร์น ที่เปลี่ยนบรรยากาศภายในของห้องโดยสารให้พรีเมี่ยมมากขึ้น ทั้งจาก จอทัชสกรีนใหญ่ขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น PRO-4X และ PRO-2X ที่เพิ่มความสปอร์ต พรีเมียม มาพร้อมวัสดุบุนุ่มคุณภาพสูงในหลาย ๆ จุด เช่น ที่พักแขน และคอนโซลหน้า การติดตั้งกระจกอคูสติก (Acoustic Glass) ลดเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อให้ทุกการเดินทางเงียบและผ่อนคลายตลอดเส้นทาง

สำหรับในรุ่น PRO-Series  มีเบาะนั่งปรับระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับเบาะนั่งให้เหมาะได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส  รวมทั้งยังเพิ่มบรรยากาศสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะเดินเส้นด้วยสีส้ม ที่นั่งตอนหน้าแบบ Zero Gravity เริ่มตั้งแต่ในรุ่น คาลิเบอร์ ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกล หุ้มเบาะด้วยวัสดุ Quole Modure* ที่สะท้อน และไม่สะสมความร้อนแม้ต้องเดินทางในระยะไกล เพิ่มความสบายทั้งในรุ่น คาลิเบอร์และ PRO-Series ที่นั่งตอนหลังยังได้ติดตั้งที่พักแขน และที่วางแก้วน้ำให้ความสะดวกสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมากยิ่งขึ้น

ตอบสนองความต้องการ และไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ด้วย NissanConnect ระบบอินโฟเทนเมนท์อัจฉริยะ ที่พร้อมสร้างความบันเทิง ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Wireless Apple CarPlay และเชื่อมต่อผ่านสาย USB สำหรับ Android Auto**  ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถใช้แอพพลิเคชันระบบนำทางผ่านระบบเครื่องเสียงอัจฉริยะได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียง พร้อมกันนี้ยังมีจุดชาร์จไฟหลายรูปแบบทั้ง Type C และ Type A เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ และสื่อสารได้อย่างไม่ขาดตอนขณะกำลังเดินทาง รวมทั้งยังมีช่องเก็บของหลายจุด ให้จัดเก็บของได้อย่างสะดวก ปลอดภัย สามารถหยิบใช้งานได้ง่าย รวมทั้ง ระบบแอร์อัตโนมัติพร้อมแยกระบบควบคุมอุณหภูมิในแต่ละที่นั่ง ให้ความสบาย ผู้โดยสารแต่ละคนทั้งตอนหน้า และหลังสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ

เครื่องยนต์บล็อกเดิม เพิ่มเติมมาตรฐานไอเสียยูโร 5 

ขุมพลังทุกรุ่นมาพร้อมมาตรฐานไอเสียยูโร 5 มีการปล่อยไอเสียต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น  แต่ยังคงให้การตอบสนองทันใจ ประหยัดน้ำมันเช่นเดียวกับนิสสัน นาวารา รุ่นก่อนหน้า ฟิลเตอร์ Diesel Particulate Filter (DPF) ช่วยกรองละอองเขม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไฟ DPF โชว์ที่หน้าจอ ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มให้ฟิลเตอร์ DPF ทำงาน เพื่อลดปริมาณเขม่าควันลง

โดยตัวเครื่องยนต์จะมีรหัส YS23DDTT ความจุ 2.3 ลิตร  4 สูบ แบบทวินเทอร์โบ ที่ยังคงให้พลังสูงสุด 190 แรงม้า  และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นโหมดแมนนวล ได้เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ รวมทั้งยังรองรับน้ำมันดีเซลทุกประเภท ตั้งแต่เกรด B7, B10, และ B20 และสำหรับในรุ่นย่อยตัวถังแบบคิงแค็บ  รุ่นคาลิเบอร์ และ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ  จะติดตั้งระบบเกียร์ 6 สปีดแบบแมนนวล  คู่กับเครื่องยนต์ DOHC VGS เทอร์โบ  2.3 ลิตร 4 สูบ ใหม่ รหัส YS23DDT ให้พลังสูงสุด 160 แรงม้า และแรงบิด 403 นิวตันเมตร

ในส่วนของ เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อประสิทธิ ในรุ่น PRO-4X  ยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีที่เพิ่มความมั่นคงในการยึดเกาะถนน และควบคุมได้ ด้วย Brake-Limited Slip Differential (B-LSD)  และระบบ Shift-On-The-Fly 4-Wheel Drive & ILO ที่ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อได้เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 ปลอดภัยรอบคัน กับ 360° Safety Shield

Nissan NAVARA 2024 ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยรอบคัน ด้วยกล้องรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มีกล้อง 4 ตัวที่แสดงภาพได้แบบเรียลไทม์ และมุมสูง ดูได้จากขอ 9 นิ้ว (สำหรับรุ่น PRO) ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Moving Object Detection (MOD) ตรวจจับวัตถุรอบตัวรถในช่วงความเร็วไม่เกิน 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากตรวจพบวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและภาพเพื่อเตือนผู้ขับขี่ทันที รวมทั้งยังสั่งให้ระบบออฟโรด และระบบขับเคลื่อนทุกล้อทำงาน

นอกจากนี้ยังมี Parking Sonar พร้อมเซ็นเซอร์ที่กันชนหน้าและหลังที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุเคลื่อนไหวขณะที่กำลังจอดรวมทั้ง เทคโนโลยีช่วยผู้ขับขี่ชุดใหญ่ ทั้ง การเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (IFCW)  เบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (IEB)  เตือนจุดอับสายตา (BSW) ป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (IBSI) การตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (RCTA) เตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (LDW) การควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (ILI) และเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (IDA) ที่หากเหนื่อยล้าจนรูปแบบการขับขี่เปลี่ยนไปโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและสัญลักษณ์ให้ผู้ขับทราบ

ในส่วนของเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย ทั้งถุงลมนิรภัย 7 จุด ปกป้องด้านด้านหน้า ด้านข้าง ม่านลมนิรภัย และเข่า เพื่อลดความรุนแรงที่อาจเกิดจากการกระแทกเมื่อเกิดการชน  เทคโนโลยี ระบบป้องกันการลื่นไถล (4-Wheel Active Brake Limited Slip)  การควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (TCS) การป้องกันล้อหมุนฟรี การควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรีเมื่อขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น  พร้อมทั้งช่วยปรับการทรงตัวของรถในกรณีที่ควบคุมยาก เทคโนโลยีป้องกันล้อล็อค (ABS) และกระจายแรงเบรก (EBD)

รวมไปถึงระบบ ที่ช่วยให้การขับขี่บนเส้นทางที่ลาดชัน ขึ้นเขา หรือเส้นทางออฟโรดได้อย่างมั่นใจขึ้น กับ ระบบการช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และทางลาดชัน (Hill Descent Control – HDC) ที่ระบบจะทำงานเมื่อเหยียบเบรกค้างไว้ และไม่ดึงเบรกมือเพื่อหยุดรถบนเส้นทางที่มีความลาดชาน  เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะหยุดรถชั่วขณะ เพื่อให้การออกตัวง่ายขึ้น และลดความเร็วเมื่อลงเนิน โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบเบรก

บทสรุปความน่าสนใจ

การปรับภายในของรถ ด้วยการยกชุดแผงคอนโซลหน้ามาจากรุ่น Terra ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มรถยนต์นั่งของนิสสันอย่าง Almera แลt Kicks  การเลือกใช้วัสดุตกแต่ง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ และหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว การรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ทำให้ได้ห้องโดยสารลุคใหม่ ที่ดูโมเดิร์นหรูหราขึ้น 

แม้ภาพรวมดีไซน์ภายนอกของ นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2024 แม้จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่ทางเลือก ก็ยังมีให้ครบครันในตัวถังครับ ทั้งในแบบ King Cab 2 ประตู แบบธรรมดา และตัวถังยกสูง รวมถึง Double Cab 4 ประตู อย่างในรุ่น PRO-Series ซึ่งมี 2 รุ่นย่อย คือ PRO-4X ดับเบิลแค็บ สีเทา สเตลท์ เกรย์  อย่างคันที่ได้มารีวิว และ PRO-2X ดับเบิลแค็บ ที่ในวันรีวิว ทางนิสสัน เลือกเอา ตัวบอดี้สีแดง มาโชว์ตัว ที่ก็ดูสวยเด่นไปอีกสไตล์ รวมไปถึงในรุ่นย่อยคาลิเบอร์ กระบะยกสูง ที่มาในแบบเวอร์ชั่น แบล็ค อิดิชั่น ที่ก็ดู หล่อในแบบเข้ม ๆ

ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ และสมรรถนะของรถโดยรวม ผมเองเคยมีโอกาสขับ ปิกอัพ นิสสัน นาวาร่า รุ่นพิเศษ PRO-4X  พ่วงติดกล่องสัมภาระทูเล่บนหลังคา เดินทางยาว ๆ  แบบคาราวานขับรถ ข้ามประเทศ จากไทย ไปซาปา เมืองในหมอก ที่ประเทศเวียดนาม กับกิจกรรม A car Road Trip  และก็มีความประทับใจเป็นส่วนตัวครับ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 190 แรงม้า และความโดดเด่นของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ ของรถ ผ่านเส้นทางการเดินทางอันทรหดกว่า 2,000 กิโลเมตร  บอกได้ เต็มปาก ว่าสมรรถนะเขาไม่เป็นรองใครในตลาดนี้แน่นอน ซึ่งใน Nissan NAVARA 2024 แม้เครื่องยนต์จะเป็นบล็อกเดิม แต่ทางนิสสันก็เพิ่มเติมในเรื่องของมาตรฐานไอเสีย เป็นยูโร 5    

ในภาพรวม แม้ Nissan NAVARA จะถือเป็นหนึ่งในรถกระบะที่มีอายุตลาดโมเดลยาวนานที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด แต่สำหรับ การโฉมปรับล่าสุดนี้ นิสสัน นาวาร่า PRO-4X  แต่ก็มีข้อดี คือความคุ้มค่า คุ้มราคา เพราะเป็นปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาเบาที่สุดในเซ็กเมนท์ ซึ่งแน่นอน ทางนิสสันเองก็พยายามปรับในเรื่องอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมกับความต้องการลูกค้า ในราคาที่เหมาะสมกับราคาจำหน่ายที่มีการปรับขึ้นเล็กน้อยในแต่ละรุ่นย่อยครับ

ราคาจำหน่าย

PRO-4X  และ PRO-2X  

 PRO-4X 4WD 7AT ราคา 1,175,000  บาท   

PRO-2X 2WD 7AT ราคา 1,045,000 บาท

Double Cab

CALIBRE E 7AT BLACK EDITION ราคา 944,000 บาท 

CALIBRE E 7AT ราคา 909,000 บาท 

CALIBRE E 6MT  ราคา 859,000 บาท 

King Cap

CALIBRE E 7AT BLACK EDITION ราคา 859,000 บาท   

CALIBRE E 7AT  ราคา 825,000 บาท   

CALIBRE E 6MT ราคา 775,000 บาท 

E 6MT     ราคา 699,000 บาท

SL 6MT   ราคา 659,000 บาท

Single Cab

4WD SL 6MT  ราคา 669,000 บาท

SL 6MT  ราคา  605,000 บาท