มาแล้วจ้า!!

ราคา All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV ที่น้องอยากรู้!!!

ราคา 1.699 ล้านบาท

 

โดยรวมของ All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ล่าสุดของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ตามทัศนะของผู้ขับขี่ สาว ไม่ใส วัยใกล้สว. ชื่นชอบในหลายจุด ตั้งแต่ภายนอกจรดภายใน รวมถึงเทคโนโลยีหลายอย่างที่โดดเด่นและน่าใช้มาก อย่างที่หลาย ๆ สื่อได้รีวิวกันมากมายแล้ว ถึงฟังก์ชั่นหลากหลายของเจ้ารถเสียบปลั๊กสัญชาติจีนคันนี้

 

ย้ำกันอีกสักครั้ง All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์อันโดดเด่น และสมรรถนะทรงพลังพร้อมรองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ภายใต้แนวคิด Future Transformed ตอกย้ำภารกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตอย่างเต็มรูปแบบ เกรท วอลล์ เพิ่งเปิดตลาดไทย ถ้าจะมาเอาดีในเรื่องของเครื่องยนต์สันดาป คงไม่ทันญี่ปุ่น อีกประการทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ มันมาทางพลังงานไฟฟ้าอยู่แล้ว

 

 

เมื่อผู้เล่นรายใหญ่มาเปิดตลาดย่อมต้องหาลานลงจอดที่ไม่หนาแน่น ซึ่งเกรท วอลล์ ทำได้ดี เพียง 2 ปี เดินตามแพลนได้ตรง แม้โลกจะประสบปัญหาโรคระบาดจากสถานการณ์โควิดก็ตาม ประเด็นนี้ต้องย่อมรับถึงความมุ่งมั่นแน่วแน่ โดยเฉพาะการคัดสรรโปรดักท์เข้ามาผลิตในประเทศไทย ทำได้ดี จากตัวเบิกฤกษ์ HAVAL H6 ไฮบริด , มาถึงแมวดี ORA และมาต่อที่น้อง HAVAL JOLION , ORA GT และพี่บิ๊กรุ่นล่าสุด All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV ต้องยอมรับว่าเกรท วอลล์ จัดหนัก จัดเต็ม ทุกโปรดักซ์มาแน่นมาล้ำ ต้องขอชมในความเป็นพ่อบุญทุ่ม

 

กลับมาที่พี่น้องใหม่ล่าสุด อย่างที่กล่าวคือดีไซน์ภายนอกมาพร้อมแนวคิดแห่งอนาคต มาพร้อมมิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix ล้ำสมัย ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp โดดเด่นสะดุดตา ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow มอบความปลอดภัยในทุกเส้นทาง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 360 องศา เข้าทรงกับสปอยเลอร์ท้ายและเสาอากาศแบบ shark fin พร้อมระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าและระบบแฮนด์ฟรี เสริมด้วยไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาว และล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว ใหญ่โต โออ่า หรูหรา ไม่แพ้คู่แข่งทุกสัญชาติ

 

 

ขณะที่การออกแบบภายในชูแนวคิด Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยคอนโซลหน้าทูโทนสีดำ-เทาสไตล์ Futuristic และครบครันด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมายในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจออัจฉริยะ 3 จอ อันนี้ดี ชัดเจน แจ่มกระจ่าง เหมาะกับสาวใหญ่ ที่สายตา เริ่มจะยืดยาว การมีหน้าจอใหญ่ ๆ ช่วยให้การใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น เพื่อการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start 

 

ขุมพลังขับเคลื่อนมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สะท้อนมิติใหม่ของรถยนต์ Plug-in Hybrid ด้วยการสร้างสรรค์บนแพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM LEMON ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ผนวกกับแบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC และมาพร้อมกับหัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 Combo รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC (0% - 80%) โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที และการชาร์จด้วยไฟบ้าน AC (0% - 100%) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง  

 

 

มีฟังก์ชั่นหลายโหมด ให้เลือกใช้ตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ สำหรับผมได้ลองใช้โหมดสปอร์ต ช่วยให้พวงมาลัยหนักแน่น แม่นยำ มั่นคง โหมดนี้เหมาะสำหรับการขับขี่ในระยะทางยาว ๆ เพื่อเสริมความมั่นใจในการควบคุมพวงมาลัยให้ดียิ่งขึ้น ในบางท่านอาจไม่ชอบ แต่ส่วนตัวผมชอบครับ และไม่ชอบรถที่พวงมาลัยเบา ๆ ไว ๆ ไม่มั่นใจเวลาขับรถทางไกล หรือขึ้นเขา เข้าโค้ง  อีกโหมดที่ได้ทดลองเป็นโหมด EV อยากให้อัตราสิ้นเปลื้องน้ำมันลดลง อีกอย่างทีมงานเกรทวอลล์ จากให้เราขับเกิน 201 กม. เพื่อให้ได้พิสูจน์อัตราสิ้นเปลื้องของแต่ละคัน เพื่อเอามาเฉลี่ยและดูความเป็นไปได้ในการใช้น้ำมัน สรุปกลุ่ม 2 ใช้น้ำมันเฉลี่ย 20 แก่ ๆ ถึง 30 ต้น ถือว่าเหมาะกับสถานการณ์น้ำมันที่ดีดตัวขึ้นตลอดเวลา เอเปคเองก็ประกาศลดการผลิตลงอีก เออ ๆๆๆ คิดแล้วก็เหนื่อย แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป แต่ละบ้าน แต่ละครอบครัว ต้องหาวิธีการประหยัด

 

มาถึงระบบต่าง ๆ ของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SVU อัดแน่นด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะมากมายทั้งระบบการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ ระบบควบคุมผ่าน GWM Application ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายและอุ่นใจไร้กังวลสำหรับทุกคน อาทิ 

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)

- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (IIP)

- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)

- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)

- ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)

- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)

- ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)

               

 

ในช่วงของการทดลองได้ลองใช้ในหลาย ๆ ระบบ ถือว่าดีทีเดียว มีอย่างหนึ่งอยากฝาก คือเสียงคำราม ๆ ของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ผู้บริหารว่าเป็นเสียงสังเคราะห์ ที่สร้างเพื่อให้ผู้ขับขี่ ได้รับรู้ว่า นี่คือรถเสียบปลั๊กนะ แต่เหมือนว่าจะตั้งค่าเสียงแก่ไป ทำเอาเราตกใจเถียงกันอยู่หลายครั้งว่า เสียงรถเราหรือเพื่อนร่วมทางข้าง ๆ กันแน่ สรุปรถเราเอง ในจุดนี้ ผู้บริหารรับปากว่าจะไปปรับปรุง

ทั้งหลาย ทั้งปวง สำหรับผมแล้ว รักเลยล่ะ แต่เรื่องแบบนี้ ผมคงจะไปตัดสินใจแทนใครไม่ได้ และก็ไม่สามารถไปชี้นำใครได้ เรียกว่าผู้บริโภคคงต้องใช้ความพึงพอใจของตัวเองและครอบครัวเป็นตัวตัดสิน ข้อมูลคนอื่นก็คือส่วนประกอบเท่านั้น ^-^