Ford Ranger Stormtrak
เสริมหล่อเพิ่มเสน่ห์ปิกอัพพันธ์แกร่ง
เวลานี้ปิกอัพที่จัดว่า ทรงแกร่ง มาดแมน ดุดัน และมาแรง คงต้องยกให้กับปิกอัพฟอร์ด เรนเจอร์ โดยเฉพาะ Next Generation โฉมปัจจุบัน หลังเปิดตัวเมื่อปลายปี 2565 ฟอร์ด ประเทศไทย มีการเสริมไลน์อัพ ให้กับเรนเจอร์ หลากหลายรุ่นตอบสนองลูกค้าแต่ละกลุ่ม
ฟอร์ด เรนเจอร์ Stormtrak คือไลน์อัพใหม่ล่าสุด เปิดตัวเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา พร้อมกับราคาแรงสุดในเซ็กเมนท์ ปิกอัพแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยราคา 1,279,000 บาท กับเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่รอบ 1,750-2,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้ขับกันลื่นไหล และประหยัดน้ำมันในเวลาเดียวกัน
ในฟอร์ด เรนเจอร์ Next Generation ช่วงล่างของมัน นอกจากเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และเหล็กกันโครงแล้ว มีการใช้โช้คอัพแบบโมโนทูป ทั้งช่วงล่างหน้า และหลัง เพื่อประสิทธิภาพการซับแรงทะเทือนเหนือกว่าโช้คอัพแบบทั่วไป
สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ Stormtrak รุ่น 4 ประตู นอกจากคุณสมบัติอันโดดเด่นของเครื่องยนต์ เกียร์ และช่วงล่าง สิ่งที่เติมความโดดเด่น เมื่อมันอยู่ในบนท้องถนนคือ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สี Asphalt Black พื้นผิวด้าน คู่กับก้านสีแดงสดใสหนึ่งก้านและก้านสีดำเงาอีกห้าก้าน
ที่ส่วนของกระบะ มีการติดตั้งสปอร์ตบาร์แบบเลื่อนและแร็คหลังคาพับได้ที่ไม่เหมือนใครของฟอร์ด ช่วยให้สามารถบรรทุกสัมภาระได้เต็มความยาวของหลังคาและพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ ทั้งหมดนี้เรียกรวมกันว่า ระบบแร็คแบบยืดหยุ่น และสามารถปรับได้ด้วยคนเพียงคนเดียว ซึ่งเราลองใช้งานแล้วบาร์แบบเลื่อน มันเหมาะมากสำหรับการบรรทุกสัมภาระที่มีความแตกต่างของขนาดและรูปร่าง มันช่วยให้เรายึดสิ่งของได้ง่ายขึ้นมาก
ตัวกระจังหน้า มีการดีไซน์ใหม่ เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของ Stormtrak สีดำเงา ล้อมรอบด้วยกราฟิกรูปตัว H รวมถึงกันชนหน้าที่เน้นด้วยแถบสี Race Red และไฟ AUX Lamp ที่ด้านหน้าของแผงกระจังหน้า
เบาะที่นั่งเป็นอีกจุดหนึ่งของความพิเศษจาก Stormtrak ตัวเบาะหนังปักโลโก้ ขลิบริมด้วยหนังกลับ Miko และตะเข็บสี Race Red ตัดกัน พร้อมสัญลักษณ์อักษร Stormtrak ของเบาะนั่งคู่หน้า บนแผงหน้าปัด ขอบคอนโซล พวงมาลัย และคันเกียร์ ใช้หนังกลับ Mikoและตะเข็บสี Race Red ตกแต่งด้วยเช่นกัน
หล่อ เนี๊ยบทั้งภายนอกและภายในแล้ว เรื่องสมรรถนะความจัดจ้านของแรงบิด 500 นิวตันเมตร และ 210 แรงม้า บนท้องถนนหลวง มันจัดอยู่ในแถวหน้าของปิกอัพตัวพ่อ ให้ความแรงได้ตามกำลังเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่งไฟฟ้า
เพียงแต่ในบางจังหวะ ดูเหมือนการสั่งงานจากคันเร่งไปยังกล่องควบคุม สั่งการทำงานเรียกกำลังเครื่องยนต์ดูจะต้องรอเวลาสัก 1 อึดใจ แต่ถือว่าไม่ใช่อุปสรรค์สำหรับนักขับใบแบบฉบับกระบะซิ่ง หรือถ้าใครที่ชอบสไตล์ ค่อย ๆ เดินคันเร่งเรียกกำลังมันจัดว่าสมูทใช้ได้ทีเดียว
ความจุของถังน้ำมัน 80 ลิตร สำหรับรถปิกอัพเป็นเรื่องปกติ ยี่ห้อไหน ๆ ส่วนใหญ่ใช้ขนาดนี้ และเมื่อมีเครื่องยนต์สมรรถนะดีขนาดนี้ เกียร์อัตโนมัติถึง 10 สปีด หากจะชับเน้นความประหยัดไม่ใช่เรื่องยาก ทำความเร็วคงที่ให้นานที่สุด ความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เท่านี้ น้ำมันถึงนั้นสามารถพาเราเดินทางได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร แน่นอน
แต่ในเมื่อคุณเลือกจะครอบครอง เจ้าเรนเจอร์สตรอมแทรค มันคือปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ แถมยังมีดริฟล๊อกล้อหลังเป็นระบบไฟฟ้า ยิ่งเพิ่มสมรรถนะปีนป่าย ลุยโคลนลุยน้ำ เข้า-ออก ป่าลึก ๆ ได้เต็มที่
โดยเฉพาะคุณสมบัติเด่นของฟอร์ด เรนเจอร์ คือมีโหมดการขับขี้ให้เลือกตามสภาพถนน และอุปสรรค์การเดินทางได้หลายรูปแบบ เช่น โหมดโคลน โหมดหิน โหมดถนนลื่น หรือโหมดลากจูง ซึ่งเราแค่หมุนปุ่มเลือกระบบการขับเคลื่อน 2H, 4H หรือ 4L บริเวณข้าง ๆ คันเกียร์ หรือเลือกโหมดการขับขี่ จากการกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ติดกัน และระบบควบคุมจะทำการเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน และเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานในโหมดต่าง ๆ ง่าย สะดวก และไม่ต้องพึงวิชา การควบคุมรถขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนในอดีต แต่บังคับพวงมาลัยไปในทิศทางที่ต้องการ เท้ากดคันเร่ง และเบรกเมื่อจำเป็น เท่านั้นเอง
เมื่อบวก ลบ คูณ หาร ถึงรูปร่างหน้าตา อุปกรณ์เสริม ของแต่งต่าง ๆ ของ ฟอร์ด เรนเจอร์ Stormtrak คันนี้ โหมดขับขี่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออันเฉลียวฉลาด กำลังสมรรถนะระดับ 210 แรงม้า เทียบกับราคาเหนือกว่าปิกอัพทั่วไปในตลาดแล้ว
ถ้าคุณชอบ ถูกใจ ต้องการใช้คุณสมบัติเด่นของ เรนเจอร์ Stormtrak ควักเงินซื้อมาขับได้เลย