ฟอร์ด รวมพลังหญิงสายลุย

ขับกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่

ฟอร์ด ประเทศไทย เชิญชวนคณะสื่อมวลชนหญิงสายลุยบุกเส้นทางสุดท้าทาย ในกิจกรรมสุดพิเศษ “Ladies Drive with Forest Ranger” พิสูจน์สมรรถนะ “ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่” รถกระบะที่รองรับทุกความสมบุกสมบัน และเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย สะท้อนตัวตนและความแกร่งของผู้ขับขี่จากภายใน พร้อมสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบเรนเจอร์ ตามแนวคิด “Live The Ranger Life” ผ่านภารกิจปกป้องผืนป่า และทรัพยากรธรรมชาติ โดยการมอบความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าในการสร้างแนวกันไฟป่า ณ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก

ในการเดินทางภายใต้แนวคิด “Ladies Drive with Forest Ranger” ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้สื่อมวลชนหญิงได้ทดสอบสมรรถะของ “ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่” ที่ปรับรูปโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยว ดุดัน สไตล์สปอรตยิ่งขึ้นในทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบส่งกำลังอันทรงพลังที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ทั้งแบบเทอร์โปเดี่ยวและเทอร์โปคู้ใน ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โดยในเครื่องยนต์แบบเทอรโบคู่ เมื่อผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มอบสมรรถนะอันเหนือชั้นด้วยกำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ในฟอร์ด เรนเจอร์ XLT มอบพละกำลังสูงสุด 160 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตันเมตร ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์ล้ำสมัย มาพร้อมศักยภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย รวมถึงความสามารถในการบรรทุกน้ำหนัก และความสามารถในการลากจูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คณะสื่อมวลชนได้พิสูจน์ความสามารถของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เมื่อ ได้ออกเดินทางจากสนามบินพิษณุโลกสู่สถานีควบคุมไฟป่าทุ่งแสลงหลวง ที่รู้จักกันดีในนาม “ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย” และเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันอับ 3 ของประเทศ ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาเพชรบูรณ์ ระหว่างการเดินทางไปยังสถานีควบคุมไฟป่าทุ่งแสลงหลวง คณะสื่อมวลชนได้ดินทางในเส้นทางที่มีทั้งทางตรงยาวสลับโค้งคดเคี้ยว และเส้นทางขึ้น-ลงเขา สื่อมวลชนได้ทดสอบพละกำลังของเครื่องยนต์ฟอร์ด ที่ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) ที่แปรผันน้ำหนักให้เหมาะสมกับความเร็วในการขับขี่ เพื่อการควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ

เมื่อถึงสถานีควบคุมไฟป่า สื่อมวลชนได้พบกับ คุณขนิษฐา ดอนชัย หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าหยฺงคนแรกในประเทศไทย ผู้ทำหน้าที่ดูแลผืนป่าทุ่งแสลงหลวงที่มีขนาดถึง 789,000 ไร่ และรับฟังบรรยายเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานควบคุมไฟป่า จากนั้นคณะสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกิจกรรมสร้างแนวกันไฟ โดยใช้ความสามารถของรถยนต์ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ว่าจะเป็นการลากจูงแท้งค์น้ำ และบรรทุกอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) ช่วยให้สามารถเหยียบคันเร่งบนทางลูกรังขณะขนของหนักได้โดยไม่ติดหล่ม และเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ฟอร์ดได้เพิ่มอุปกรณ์เสริมฝาปิดกระบะท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้า (Power Roller Shutter) เฉพาะสำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ให้สามารถบรรทุกของได้อย่างปลอดภัย และสะดวกยิ่งขึ้น

คุณกมลชนก ประเสริฐสม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย และตลอดเอเซียน กล่าวว่า “ไฟป่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรทางธรรมชาติไปอย่างมากมาย และในระยะสองสามปีที่ผ่านมานี้ ไฟป่ายังเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย การเดินทางไปสร้างแนวกันไฟป่าครั้งนี้จะช่วยเติมเต็มพันธกิจของฟอร์ดในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ที่เห็นความสำคัญในการปกป้องและช่วยลดมลพิษ ในการเดินทางครั้งนี้ สื่อมวลชนยังได้ทดสอบความสามารถของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่ปรับโฉมให้มีความเท่มากขึ้น และสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น รวมึงการใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อลากจูงในการลำเลียงอุปกรณ์สำหรับสร้างแนวกันไฟ และทดทดสอบช่วงล่างที่ทำให้การขับขี่มีความนุ่มหนึบ เกาะถนน พิชิตเส้นทางที่สมบุกสมบัน รวมถึงยังได้รับประสบการณ์จากระบบส่งกำลังที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นโดยมีวิศวกรฟอร์ด และที่สำคัญสื่อมวลชนจะได้รับรู้ถึงคุณค่าการใช้ชีวิตแบบ Live The Ranger Life ที่มีอยู่ในตัวตนของทุกคน ซึ่งสะท้อนออกมาจากการทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับผู้พิทักษ์ป่าหญิงอีกด้วย”

ภารกิจที่สื่อมวลชนหญิงและเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมไฟป่าได้ใช้รถยนต์ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันทำกิจกรรมนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อเอาชนะขีดจำกัด ให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อคงผืนป่าอันเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำหลายสายที่มีความสำคัญต่อการเกษตรในพื้นที่ใกล้เคียงรวมถึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนให้คงอยู่ต่อไป โดยสื่อมวลชนได้สัมผัสการใช้ชีวิตแบบเรนเจอร์ตามแนวคิด “Live The Ranger Life” ทั้ง 5 ประกาน ให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ “เราพร้อมลุยเสมอ (Up and Over)” และ “ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ร่วมเดินทางไปกับเรา (Bring Others Along the Journey)” กล่าวคือ นอกจากจะได้ร่วมมือกันทำให้งานยากกลาเป็นสิ่งที่สำเร็จได้โดยง่ายแล้ว ยังสามารถสร้างแรงขับเคลื่อนให้ผู้หญิงในการร่วมมืออนุรักษ์ระบบนิเวศ และป้องกันไฟป่าอันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่มาของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาที่คนไทยในความสำคัญอีกด้วย

ในวันที่สองหลังปฏิบัติภารกิจสุดท้าย คณะสื่อมวลชนได้เดินทางด้วยรถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ สัมผัสประสบการณ์การเดินทางแบบออฟโรด ผ่านเส้นทางถนนลูกรัง และผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อเดินทางสู่ทุ่งนางพญาเมืองเลน ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของอุทยานแห่งชาติแสลงหลวง ทุ่งนางพญาเป็นทุ่งหญ้าที่แวดล้อมด้วยป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง เหมาะสำหรับการชมวิวทิวทัศน์ และผู้ที่ต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยบรรยากาศคล้ายคลึงกับทุ่งหญ้าสะวันนาในทวีปแอฟริกา มีป่าสนเขาขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น รวมถึงไม้ดอกสีสันสวยงามที่มีอยู่หลากหลายชนิด ก่อนร่วมรับประทานอาหารเช้าแบบแคมป์ปิ้งท่ามกลางลมหนาว และภูมิประเทศที่งดงามส่งท้ายการเดินทางครั้งนี้