เปิดมุมมองใหม่ที่ท้าทายไปกับ

SUZUKI XL-7 Multi-Dynamic Crossover

 

จริง ๆ แล้ว ซูซูกิ มอเตอร์ เปิดตัวเจ้า Suzuki XL7 มาได้สักระยะแล้ว แต่ติดที่ว่าปีที่เค้าเปิดตัวรุ่นนี้ก็อยู่ในช่วงของสถานการณ์โดวิด-19 พอดิบพอดี การขับเคลื่อนยอดขาย ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ผู้บริหารจัดหนักจัดเต็ม สานต่อความสำเร็จด้วยแคมเปญใหญ่ เพื่อดันดีลยิ่งใหญ่ท้ายปี ให้สำเร็จกับแคมเปญ SUZUKI MEGA DEAL ดันยอดขายรถอีโคคาร์รวมทุกรุ่นให้ได้ 200,000 คัน ในสิ้นปี 2564 ประกอบกับการจัดกิจกรรมมากมาย

 

ทริปเปิดมุมมองใหม่ที่ท้าทายไปกับ SUZUKI XL-7 Multi-Dynamic Crossover น่าจะเป็นตัวเสริมอีกตัวที่สร้างพื้นที่ข่าวให้กับรถยนต์ในอาณัติของซูซูกิ หากพูดถึงรถยนต์ในกลุ่มรถอเนกประสงค์แล้ว ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นกว่ารถเก๋ง เพราะอรรถประโยชน์ที่มากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบและเลือกใช้สอยยิ่งขึ้น ค่ายรถหลากหลายยี่ห้อก็มีรถอเนกประสงค์หลากโมเดลให้เลือกมาก

 

สำหรับซูซูกินับว่ามีรถอเนกประสงค์หลายรุ่น อาทิ เออร์ติก้า (Suzuki Ertiga) เน้นความเรียบง่ายแบบมินิแวน และ ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 (Suzuki XL7) ส่วนรุ่นหลังถูกต่อยอดให้แตกต่างในสไตล์ครอสโอเวอร์ ทั้งสองรุ่นนั้นเป็นรถนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย

 

กิจกรรมการขับขี่ SUZUKI XL-7 Multi-Dynamic Crossover ไปกลับกรุงเทพ-เขาใหญ่ ต้องการให้มีการพิสูจน์ถึงสมรรถนะ และการขับขี่ใช้งานในหลากหลายรูปแบบทั้งในแบบออนโรด และแบบออฟโรดเล็ก ๆ พอได้เห็นถึงศักยภาพของรถอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ Suzuki XL7 แบบกรุบกริบ 

 

SUZUKI XL7 มีจุดเด่นจากรูปลักษณ์ด้านหน้ารถ มิติตัวรถนั้นจะมีสัดส่วนที่ขยายขึ้นกว่าเดิมในทุกมิติ เมื่อเปรียบเทียบกับ Suzuki Ertiga ทั้งความยาว 4,450 มม. มากกว่า Ertiga 55 มม. กว้างกว่า 25 มม. และสูงกว่า 10 มม. ส่วนความสูงใต้ท้องรถ 200 มม.ในขณะที่ Ertiga สูงเพียง 180 มม.และมีความยาวฐานล้อ 2,740 มม. ในขณะที่ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ 200 มม.

 

เครื่องยนต์เป็นบล็อกเดียวกับ Ertiga ในรหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที แรงบิดที่ 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ  ซึ่งมีการปรับจูนให้ตอบสนองดีขึ้น ประหยัดขึ้น จากอีโค่สติ๊กเกอร์ในอัตราการสิ้นเปลืองที่ 4.1 ลิตรต่อ 100 กม. ขณะที่ Ertiga อยู่ที่ 6.3 ลิตรต่อ 100 กม.และรองรับเชื้อเพลิงแก๊ซโซฮอลล์อี 20

 

รูปลักษณ์ภายนอกไฟส่องสว่างแบบแอลอีดีทั้งไฟหน้าและไฟท้าย หน้ากระจังใช้วัสดุสีโครเมียม บนหลังคาติดตั้งแรคหลังคาเพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระที่หลากหลาย ล้อแม็กซ์ ขนาด 16 นิ้ว

ห้องโดยสารใช้วัสดุคาร์บอนเคฟล่าร์ เพิ่มมาดสปอร์ตให้กับรถคันนี้ได้อย่างลงตัวทั้งคอนโซลและแผงข้าง พวงมาลัยแบบ D-Shape มีปุ่มควบคุมการใช้งานวิทยุและโทรศัพท์และคอนโซลกลางแต่ที่ขาดไปนั่นคือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติครุสคอนโทรล

 

 

เบาะนั่งทั้ง 7 เป็นเบาะผ้าที่มีการแซมด้วยหนังที่ขอบเบาะ ปรับและพับเบาะนั่งแถว 2 ได้ หลากหลายรูปแบบ เพื่อสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง สามารถเลื่อนหน้า/หลัง และพับ เพื่อเข้าไปยังเบาะนั่งแถว 3 ได้สะดวก แต่แถว 3 มีพื้นที่ค่อนข้างกะทัดรัดนั่งได้ แต่หากเป็นระยะทางยาว ๆ น่าจะไม่สบาย นอกจากผู้โดยสารที่เป็นเด็กก็พอจะขยับเขยื้อนปรับท่านั่ง ท่านอนได้

 

สำหรับจอแอลอีดีขนาด 5 นิ้วที่อยู่ระหว่างกลางมาตรวัดทรงกลมทั้ง 2 ช่อง ซึ่งแสดงผลและแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ เช่น Driving G-Force อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราแรงบิด กำลังของเครื่องยนต์ และข้อมูลอื่น ๆ ที่คอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้วเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อ บลูทูธ HDMI และ USB ที่มีช่องต่อไฟถึง 3 ตำแหน่ง ทั้งยังแสดงภาพจากกล้องมองหลัง

ด้านระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติกระจายความเย็นไปยังผู้โดยสารตอนหลังด้วยการติดตั้งระบบปรับอากาศบนเพดาน ทั้งยังเติมความสะดวกสบายด้วยการวางตำแหน่งแก้วน้ำไว้ทุกพื้นที่ทั่วรถถึง 6 จุด

 

ระบบช่วงล่าง ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทมากับเหล็กกันโคลงด้านหน้า (Front Stabilizer) ขนาดใหญ่พิเศษเพื่อสามารถลดอาการโคลงของตัวรถและเพิ่มการยึดเกาะถนน ด้านหลังเป็นทอร์ชั่นบีมพร้อมคอยล์สปริง ซึ่งทั้งหมดได้ปรับเพิ่มในส่วนการซับแรงสั่นสะเทือนให้ดีขึ้นและยาวกว่าเดิม

 

ด้านความปลอดภัยมีครบพร้อมกับถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS พร้อมกระจายแรงเบรค EBD เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control) และป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

 

หากดูจากระบบต่าง ๆ ที่ให้มาก็ถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่น่าใช้ แม้กิจกรรมในครั้งนี้ จะให้ผมได้ลองสมรรถนะในหลากหลายของสภาพถนน แต่ถ้าเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว วันประเภทนี้เหมาะกับการใช้งานปกติจะเหมาะสมกว่านำมาลุย แม้ว่าจะลุยได้ แต่ไม่ค่อยตอบโจทย์นัก เรียกว่าขับสวย ๆ หล่อ ๆ บนถนนน่าจะเหมาะสมกว่า...