ALL NEW MG5

กับสัมผัสแรก ราคานี้ยังไงก็คุ้ม

 

โดย วชิระ เรืองมาลัย

 

ร้อนแรง สดใหม่ที่สุดในตลาดเก๋ง B เซกเมนท์แล้วหละครับ สำหรับ ออลนิว เอ็มจี 5 ในเวลานี้ หลังจากเปิดตัวในเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ยอดขายก็พุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงวันนี้ก็มากกว่า 3,000 คันครับ นับว่าสมความตั้งใจของเอ็มจี เซลส์ ที่คาดหวังว่าโมเดลนี้น่าจะเป็นความหวังของหมู่บ้าน ทางเอ็มจีได้เชิญสื่อไปสัมผัสรถกันเบา ๆ และเราก็มีโอกาสได้ขับเป็นครั้งแรก ไปดูกันครับว่ารถมีอะไรเด่น

 

รถมี 3 เกรดครับ ราคาเริ่มต้น รุ่น C 559,000 บาท รุ่น D 599,000 บาท และรุ่นท็อปคือ รุ่น X 689,000 บาท แน่นอนครับ เปิดราคามาไม่ถึง 7 แสน ไม่ว้าว!! ก็ไม่รู้จะว่ายังไงละครับ ถือว่าราคาดีที่สุดในคลาส และนั่นก็เป็นเหตุผล ว่าทำไม่ผู้คนที่เฝ้ารอถึงได้แห่แหนกันไปจับจอง

ความประทับใจแรกของเรากับ ออลนิว เอ็มจี 5 ก็คือ ความใหญ่ครับ เผยโฉมออกมาเล่นเอาคู่แข่งในตลาดกลายเป็นมวยรองต้องแบกน้ำหนักกันไปเลย เพราะดูหน่วยก้านบอดี้แล้ว มันจะข้ามเซกเมนท์ไปกินกลุ่ม C เซกเมนท์ เอาด้วยซ้ำ

ตัวรถถูกออกแบบสไตล์เก๋งสปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ด้านท้ายจะลาด บั้นท้ายสวยงาม ละม้ายไปคล้ายอาวดี้เอาด้วยซ้ำ ส่วนภายในรถนั้น ดีไซน์ได้เยี่ยมครับ ค๊อกพิทออกไปแนวสปอร์ต พรีเมี่ยม ใช้วัสดุเกรดดีทีเดียว การประกอบก็ค่อนข้างเนี้ยบ พิถีพิถันกว่าเดิมเยอะ ไม่สุกเอาเผากินเหมือน MG รุ่นแรก ๆ ที่เข้ามาตอนเปิดตลาดใหม่ ๆ ที่ดูจะโบราณเอามาก ๆในตอนนั้น

 

 

แน่นอนครับ ในเรื่องของความทันสมัยและไฮเทคโนโลยี เอ็มจีจัดมาลงเต็มครับ ทั้งเรื่องของระบบช่วยขับขี่และเอนโฟเทนเมนท์ มีระบบกุญแจ ที่ชูเป็นจุดเด่น คือระบบดิจิตอล คีย์ ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ สะดวกสบายกับเจ้าของรถ กรณีที่ลืม กุญแจหรือทำหาย สามารถใช้โทรศัพท์มือถือเปิดครถแทนกุญแจและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เลย ราคาไม่ถึง 7 แสนแต่ ออฟชั่นเรียกได้ว่าล้น ๆ มากทีเดียวครับ โดยเฉพาะรุ่น X รุ่นท็อปนั้น มีหลังคาซันรูฟ และล้อขนาด 17 นิ้ว

พบเจอหน้ากันครั้งแรกสัมผัสแค่เพียงรูปลักษณ์หน้าตาและภายในห้องโดยสารยังไม่ทันได้ลองพลัง ก็ประทับใจจอร์จ! แล้วครับ

 

ในส่วนของเครื่องยนต์ ออลนิวเอ็มจี 5 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แบบดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ 114 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด มาพร้อมระบบควิกชิฟและแพทเดิลชิฟที่พวงมาลัย รวมไปถึงระบบช่วยในการขับขี่และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว (Synchronized Protection System) ที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นดีสก์เบรก 4 ล้อ มาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 3 มิติ ระบบควบคุมการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน เยอะจริง ๆ ครับ

 

 

สำหรับผมและเอ็มจี 5 นั้น ทำความคุ้นเคยกันมาก่อนในโมเดลที่แล้ว บอกตรง ๆ ครับประทับใจกับเก๋งเอ็มจีก็ตรงจุดเด่นเรื่องประสิทธิภาพของช่วงล่างและการควบคุมครับ เป็นรถที่บาล้านซ์ดีมาก ๆ คอนโทรลได้เยี่ยมขับเคลื่อนได้สนุก พวงมาลัยแม่นยำ การเกาะยึดสไตล์ยุโรป แน่นอนครับ การได้ลองขับในโมเดลใหม่นี้ ดีใจครับที่ เอ็มจีไม่ทิ้งดีเอ็นเอเดิมของรถเก๋ง จุดเด่นของโมเดลนี้ก็ต้องยกให้เรื่องของช่วงล่างเลยครับ มันเป็นรถที่ควบคุมได้แม่นยำมีความเสถียรสูง ยิ่งได้ทดลองขับกันในสนามทดสอบของเอ็มจี ที่ศรีนครินทร์ท ซึ่งเป็นสนามสั้นกระชับเน้นการควบคุมในโค้ง ยิ่งทำให้มันแสดงออกถึงประสิทธิภาพของช่วงล่างให้เห็นความดีงามของมันออกมาโชว์ได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว เอ็มจี 5 ใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป้นช่วงล่างแบบ ทอร์ชั่นบีม ด้านประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ อาจยังไม่ได้ทดลองกันบนเส้นทางยาวๆ ซักเท่าไหร่นัก ก็พอได้รับรู้ถึงการตอบสนองได้บ้าง จัดว่าไม่น้อยหน้ารถในกลุ่มครับ เครื่องยนต์ 114 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร ไม่ถึงกับจัดจ้านแต่ก็ไม่แบกน้ำหนัก ถึงจะเป็นเครื่อง Non เทอร์โบ

 

 

 

ด้วยราคาขายและออฟชั่นที่ดีงาม รูปร่างหน้าตาความสดใหม่ การคอนโทรลที่ยอดเยี่ยมในสไตล์เก๋งยุโรปแค่นี้ก็คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายแล้วครับ เอาไว้มีโอกาสได้ทดลองใช้งานเดินทางกันยาว ๆ จะรีบมารายงานให้ได้อ่านกันในโอกาสต่อไปนะครับ