ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชั่นที่ 11

สปอร์ต แรง ล้ำ นำไปอีกก้าว

 

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11” ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน ตอกย้ำความเป็นไอคอนของฮอนด้า ด้วยดีไซน์ภายนอกสปอร์ตและพรีเมียมในทุกมุมมอง ให้ความแรงทรงพลังเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ VTEC TURBO 1.5 ลิตร พร้อมระบบเกียร์ CVT ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 178 แรงม้า เติมเต็มด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING สะดวกสบายเหนือระดับ

 

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ตอกย้ำความเป็นไอคอนของยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน ที่ได้รับการพัฒนาดีเอ็นเอความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ให้ก้าวล้ำตลอด 10 เจเนอเรชันที่ผ่านมา ครั้งนี้ ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชันที่ 11 พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์อีกครั้งอย่างแน่นอน

ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในระลอกปัจจุบัน ที่จำนวนคนติดเชื้อคนป่วยหนัก คนเสียชีวิตหนักหนาสาหัส จนภาครัฐฯ ต้องตั้งการ์ดสูงยิ่งขึ้น ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ ของสื่อมวลชนและผู้ประกอบการต้องเข้มงวดมาก โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องพบเจอแบบคนมาก ๆ นั้น เป็นไปได้ยาก การจัดกิจกรรมต่าง ๆของแต่ละผู้ประกอบการจึงต้องปรับเปลี่ยนไปตามมมาตรการของรัฐ

 

สำหรับฮอนด้าเอง ซึ่งได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการหยุด และชะลอการผลิตรถ เพราะปัญหาซัพพลาย ปัญหาลูกจ้างติดโควิด-19 และอีกหลายอุปสรรคนาน ๆ ประการ ทำให้การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ของออนด้า ต้องถอยล่นมาเรื่อย ๆ เป็นเหตุให้ฮอนด้าต้องทยอยแนะนำรถใหม่ลงตลาด ถี่และเบียดเสียด เริ่มจากการเปิดฮอนด้า ซิตี้ ต่อด้วยฮอนด้า ซีวิค ตามด้วยฮอนด้า แอคคอร์ด และฮอนด้า ซีอาร์วี เรียกว่าปล่อยกระสุ่นเหมือนปืนเอ็ม 16 จะทำไงได้ การดำเนินธุรกิจจำเป็นต้องเดินหน้า

 

วันนี้เราขอพูดถึงการทดลองขับรถธงของฮอนด้า ออนด้า ซีวิค ผู้นำสัดส่วนการขายลดำดับที่ 1 ของรถยนต์ทุกรุ่นของฮอนด้า ซีวิคเป็นผู้กำยอดขายในสัดส่วนถึง 64.1% จะแนะนำแบบเอื้อย-อ้ายไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นโมเดล เชนจ์ในเจเนอเรชั่นที่ 11 อีกด้วย

การแนะนำฮอนด้า ซีวิค ครั้งนี้เปิดกันแบบออนไลน์ และเปิดให้ทดลองขับแบบจำกัด จำนวนสื่อ ให้รถ 1 คันต่อ 1 สื่อ และต้อง ATK ทุกคนก่อนการรับรถไปทดลองขับตามอัธยาศัย ภายใต้ข้อจำกัดของทีมประชาสัมพันธ์ของฮอนด้า

 

อะคาร์ได้สิทธิ์รับรถไปทดลองเป็นเวลา 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ในแว๊บแรกที่เห็น ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ บอกเลยว่ารู้สึกแปลกตาไปจากความเป็นซีวิค จะไปคล้ายพี่ใหญ่ ด้วยนิยามความสปอร์ต รูปลักษณ์ภายนอกจึงดูเพรียวขึ้น อาจด้วยเส้นสาย โฉบเฉี่ยว รอบคัน มิติที่ปรับให้เป็นไปตามหลักพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น ในทุกมุมองตั้งแต่กระจังหน้า กันชนหน้า ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่าง รวมถึงไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะรุ่นที่นำมาให้สื่อได้ทดลองขับกันครั้งนี้เป็นรุ่นท็อป RS ที่ตกแต่งสุดพิเศษ รอบคัน ทั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม ท่อไอเสียและล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ทุกสิ่งมาพร้อมสัญลักษณ์ RS 

 

ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต และสะกดทุกสายตาด้วย สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS โดยรวมของภายนอกแล้ว ส่วนตัวชอบซีวิค รุ่นก่อนปรับโฉมมากกว่า เพราะโฉมนี้มันละม้ายคล้ายแอคคอร์ด มากว่า แต่เจนนี้ก็เติมความสปอร์ตให้มากยิ่งขึ้น ดูดิบเหมือนรถแข่งมากยิ่งขึ้น

 

ในส่วนภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียม มาพร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัย พร้อมเชื่อมต่อคุณและรถยนต์ให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่หลากหลาย* สำหรับรุ่น RS อาทิ ใหม่ ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ดีไซน์เรียบหรู พกพาสะดวก ให้คุณล็อกและปลดล็อกรถได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา

 

ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทันสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ แต่มีคำถามที่หลายกูรูสงสัยว่าทำไม ซีวิครุ่นนี้ถึงไม่มีที่ปรับอากาศผู้โดยสารต้อนหลัง จากการได้ทดลองใช้รถ ระบบปรัอบการศรุ่นนี้มันฉ่ำมาก ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือว่าสภาพอากาศมันเป็นใจ เราเปิดแอร์ 25 องศา มือแข็งต้องปรับอุณหภูมิขึ้น มาที่ 26.5 องศา หรือจะว่าเราเป็นคนขี้หนาวก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าระบบปรับอากาศเจนนี้เอาอยู่กับอากาศเมืองไทย ที่ไม่ใช่เดือนเมษายน 555 หลังจากนี้ ซ.ต.พ. กันต่อไป นอกจากนี้คอนโซลที่ตกแต่งแบบรังผึ้ง มันดูเป็นดีไซน์ที่ผสมผสานลงตัวดี

 

ในส่วนของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ฮอนด้าเขาปลื้มอีกปลื้มใจ มันจะทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย และเมื่อมีความเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ ซึ่งเราไม่ได้ทดลองระบบนี้ เพราะไม่มีผู้เชี่ยวชาญเดินทางไปด้วย เดี๋ยวกะระยะผิดงานจะงอก

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) อันนี้ใช้ได้ไม่กระโชกโฮกฮาก อยู่ในวิสัยละมุนละม่อม

- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

- ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) นอกจากนี้ก็ยังมีระบบความปลอดภัยอีกหลากหลาย ซึ่งลุกค้าที่สนใจ ต้องลองไปทดลองขับและทดลองใช้กันดู แต่เขาก็ให้มาเยอะล่ะ

 

สำหรับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ 4 สูบ 16 วาล์ว ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมัน ซึ่งถือว่าดีเรียกกำลังได้ดี ปรู๊ดปร๊าด ไม่อึดอัด แถมยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่

- ECON Mode : โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น โหมดนี้ขับชิล ๆ กินลมชมวิว สำหรับคนขับที่ไม่เร่งรีบนัก และต้องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงใช้โหมดนี้วิ่งได้สบาย แต่เวลาเร่งแซงจะอั้น ๆ นิดนึง

- Normal Mode : โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป ใช้โหมดนี้ก็สนุกสนานแล้ว ไม่ต้องดันไปถึงโหมดสปอร์ต ให้ความรู้สึก ปราดเปรียว ในขณะที่เร่งแซงก็มั่นใจ ไปได้ไม่กังวล ว่าจะเข้าไม่ทัน 

- สำหรับโหมด Sport Mode : ให้การขับขี่แบบสปอร์ต ที่การทำงานของเครื่องยนต์ตอบสนองการเร่ง ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความหนุบหนับ มั่นคงในทุกการเกาะถนนมากยิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ (เฉพาะรุ่น RS)  ส่วนท่านใดยังไม่แน่ใจกับข้อมูลที่หลากหลายทะลักทะล้นจากสื่อมวลชน กูรู กูรู้ แนะนำว่าให้ไปทดลองขับขี่ด้วยตัวท่านเองก่อน ในช่วงนี้ทุกโชว์รูมมีมาตรการในการดูแลลูกค้าอย่างดีและเข้มงวด หรือถ้าเป็นแฟนคลับฮอนด้า ซีวิคอยู่แล้ว ก็แนะนำว่าซื้อได้เลย ไม่ผิดหวังขอรับ...