Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive

หล่อ ล้ำ นำสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โดย วชิระ เรืองมาลัย

Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive คือที่สุดแห่งยนตรกรรมในตระกูลเอสยูวีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต ให้คุณได้ขับเคลื่อนอย่างมีสไตล์และท้าทายทุกเส้นทางใหม่ของชีวิต ด้วยการผสานเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดและความแข็งแกร่งในแบบฉบับของเครื่องยนต์ดีเซลให้เป็นหนึ่งเดียวเป็นครั้งแรก

มันสุดยอดใช่มั้ยละครับ สำหรับผมแล้วมันโดนใจมาก ๆ เพราะผมเป็นผู้บริโภคที่นิยมรถประเภทอเนกประสงค์ เพราะเป็นสายขน คือบรรทุกทุกอย่างที่อยากได้ คิดถึงปุ้บรื้อกระดปรงหลังต้องมี ว่ากันง่าย ๆ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปี หลังที่เจอกับสถานการณ์โดวิด-19 ด้วยแล้ว ผมยิ่งโหยหาธรรมชาติมากขึ้น เบื่อผู้คน และนิยมชมชอบกับการนอนสัมผัสธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ผมอนุมานว่าอาจะเป็นไปตามวัยใกล้เข้าวัยสูงอายุ อีกอย่างโควิดเป็นเหตุที่ทำให้เราต้องเว้นวรรคทางสังคม ห่าง ๆ จากมนุษย์ เพราะเชื้อโรคมันแพร่จากมนุษย์สู่มนุษย์

อีกประการหนึ่ง รถเอสยูวี หรือ พีพีวี มันช่วยให้เราได้สัมผัสทัศนวิศัยในการขับขี่แบบเต็มตา ชัดเจน ไม่ถูกเบียดบัง เหตุผลนี้มันตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวเราเป็นสำคัญ วันนี้ผมได้มีโอกาสหยิบยืม เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี 350 ดีอี เป็นเทคโนโลยีใหม่ของค่ายตราดาว ที่เขานำลูกผสมระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลมาผสานกับเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด สำหรับแฟนพันธุ์แท้ดีเซลอย่างผมแล้ว มันคือใช่!! แม้ผมจะไม่ได้ชื่นชมรถพลังงานทางเลือกเท่าไหร่นัก แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่รักสิ่งแวดล้อมนะ แต่ผมแยกมันออกจากกัน ต่อเมื่อวิวัฒนาการของเทคโนโลยีมันเดินมาด้วยกัน ผมก็ไม่แอนตี้ มันจึงเป็นเหตุผลที่ผมอยากสัมผัสด้วยตัวเองว่า รถเครื่องยนต์ดีเซล มันผนวกกับปลั๊กอินแล้ว ให้พละกำลังได้มากน้อยแค่ไหน และน่าสนใจระดับไหน   

ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชันที่ 3 พร้อมมอบพละกำลังสูงสุดถึง 320 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่พุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.8 วินาที ขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พร้อมทลายทุกข้อจำกัดในทุกเส้นทางและตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

สิ่งหนึ่งที่ชื่นชมเลยคือประหยัดโคตร ๆ ครับ เพราะปกติเครื่องยนต์ดีเซลจะไม่กินน้ำมันเท่าเครื่องยนต์เบนซินอยู่แล้ว ยิ่งได้เทคโนโลยีมาเติมอีก ดีงาม อีกอย่างหนึ่งด้วยน้ำหนักรถที่เพิ่มขึ้นจากแบตเตอรี่ มันกลับทำให้หนักแน่นมากขึ้น ได้ความนุ่นนวล หนึบหนับ มาแทนที่อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะสมรรถนะในช่วงตีนต้นดีมากครับ ผมว่าดีกว่ารุ่นเครื่องยนตืดีเซลเสียอีก ตีนปลายไม่ต้องพูดถึง ผมแอบหลงรัก และคิดในใจว่าอยากจะเอาเจ้าสีนิล E220d มาเปลี่ยนเป็นเจ้าลูกผสมตัวนี้เสียด้วยซ้ำ เสียดายที่เมียผมรักสีนิลมากครับ นางเป็นตัวเฮงประจำบ้าน ให้โชคให้ลาภบ้านเรามาโดยตลอด

หากพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอก สำหรับผมมองว่าไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นดีเซลมากนัก แต่ยังคงพกพาความหล่อแมน ให้อารมณ์สปอร์ตในทุกมิติด้วยดีไซน์แบบ Exclusive body styling พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่มีความโดดเด่นในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED high-performance ที่ทั้งส่องสว่างอย่างโดดเด่นและให้โทนสีของไฟที่คล้ายคลึงกับแสงธรรมชาติดูสบายตา ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 20 นิ้ว ตลอดจนความแข็งแกร่งของส่วนท้ายที่บ่งบอกถึงความโดดเด่นในการออกแบบที่มีความโฉบเฉี่ยวในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์เหมือนเดิม

ในส่วนดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ผมชอบครับ โดดเด่นน่าหลงไหลตั้งแต่แรกเห็น โดย Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive พร้อมให้คุณข้ามทุกขีดจำกัดแห่งการควบคุมที่เหนือกว่า กับครั้งแรกของระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่เชื่อมโยงคุณเข้ากับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว โดยพัฒนามาจากนวัตกรรม AI ให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกควบคุมด้วยระบบที่หลากหลายและตอบสนองได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ ทั้งระบบสั่งการด้วยเสียงที่สามารถจดจำข้อมูลและเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานต่าง ๆ ของผู้ขับขี่เพื่อแจ้งเตือน หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้ง่ายและเหมาะสมที่สุด ผสานการทำงานร่วมกับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอต่อเนื่องกัน โดยสามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลของหน้าจอ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการขับขี่ที่หลากหลาย และมอบความสะดวกสบายด้วยระบบสัมผัสสำหรับหน้าจอแสดงผลข้อมูลส่วนกลาง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ให้ความรู้สึกถึงความเป็นเมอรืเซเดส-เบนซ์ได้ครบครันเหมือนเดิม

ในส่วนที่ผมชอบอีกอย่างหนึ่ง สำหรับ Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบเบาะได้เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับและพับเบาะได้ง่ายด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 1/3 และ 2/3 เพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้กว้างขึ้น และตอบรับไลฟ์สไตล์ได้ทุกรูปแบบ สำหรับรุ่นที่ผมนำมาทดลองในครั้งนี้ เป็น Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive ราคา 4,699,000 บาท 

สำหรับท่านที่สนใจอยากทดลองลูกผสมแบบนี้ ผมแนะนำว่าลองไปสัมผัสได้ที่โชว์รูมเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วประเทศ เขามีมาตรการปกป้องดูแลลูกค้าเป็นอย่างดีที่เดียวครับ รอให้สถานการณ์โควิดเบาบาง ก็แวะไปลองขับกันดูนะครับ