ตรีเพชรอีซูซุฯ พาขับ Isuzu V-Cross ท่องเที่ยวลุย! ท้าโลก

ในเส้นทาง อุดรธานี-วังเวียง-เวียงจันทน์ 3 วัน 2 คืน

 

ทริปนี้พิเศษอีกแล้วครับ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดกิจกรรม Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก เส้นทางอุดรธานี – วังเวียง – เวียงจันทน์ 13 – 15 มิถุนายน 2566 ถือเป็นโปรเจ็กต์พิเศษ ซีซั่น2 หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จท่วมท้น มาแล้วในโปรเจ็กต์พิเศษ “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads…ตัวจริงทุกเส้นทาง

หลังผ่อนคลายกับสถานการณ์เจ้าปัญหาต่าง ๆ ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ค่ายรถก็ต้องขายรถ คนซื้อก็ต้องซื้อรถ และสื่อมวลชนก็ต้องทำหน้าที่กระบอกเสียง ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร เพื่อเร่งการรับรู้ แม้ว่าการใช้ชีวิตในปัจจุบันจะจมอยู่กับออนไลน์กันเป็นส่วนใหญ่ แต่มนุษย์สัตว์สังคม ยังคงชื่นชอบกิจกรรมที่สบาย ๆ ผ่อนคลาย ทำงานให้เหมือนเที่ยว การเดินทางกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ในทริปนี้ น่าจะใช้สโลแกนเช่นนั้นได้ สำหรับอะคาร์ ส่วนสื่อหลาย ๆ ประเภทที่ต้องแข่งขันกันแบบนาทีต่อนาที คงเหนื่อย!!

 

 

 

สำหรับเราแล้วการแข่งขันกับตัวเองคือดีสุด สนุกสุด แรงกดดันไม่ได้ถาโถม ไม่เครียดมากนัก แต่ไม่ใช่ไม่เครียดเลย ยังคงมีความเครียดเบา ๆ เสมือนแรงผลักดันให้เราได้กระตุ้นตัวเอง หากไม่มีความกดดันซะเลย ก็คงเหมือนผักรอวันเฉา เออ...เข้าเรื่องการเดินทางไปขับรถอีซูซุ วีครอส ในทริปนี้ดีกว่า การเดินทางครั้งนี้ เราบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่อุดรธานี แล้วรับรถ ISUZU V-CROSS 4x4 MAGIC EYEs จัดทีมประจำรถกันที่ดีลเลอร์ เฮียบหงวนอุดรธานี จัดทัพทั้งคนและรถเสร็จสรรพ บรรยายสรุปสั้น ๆ พร้อมเดินทางจากอุดรธานี ไปหนองคาย ราว ๆ 60 กม. เพื่อผ่านแดน ณ ด่านหนองคาย เข้าสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้ใบอนุญาตขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดของประเทศไทยได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่นานาชาติ เมื่อเข้าสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จึงได้ขับรถมุ่งหน้าต่อไปยังร้านอาหาร Lao Derm Som Ngum” ร้านอาหารแพริมน้ำ ตั้งอยู่บริเวณสะพานท่าง่อน ริมแม่น้ำงึม ห่างจากนครเวียงจันทน์ประมาณ 23 กม. ที่ทุกคนสามารถชมบรรยากาศของลำน้ำงึม ไปพร้อมกับอาหารมื้ออร่อย

  

 

 

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันที่เวียงจันทน์เรียบร้อย เราก็ตรงดิ่งไปยังวังเวียง โดยใช้ทางด่วนหรือทางหลวงพิเศษ ปัจจุบันการเดินทางในลาว ง่ายขึ้น ถนนหนทาง สะดวก สบาย ทางด่วนมากมายหลายสาย  ขับง่าย ขับคล่อง สองข้างทางสวยงาม ด้วยระยะทาง 123 กม. วังเวียงเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของแขวงเวียงจันทน์ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงามและสมบูรณ์ จนได้ชื่อว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองลาว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้ ถ้ำ ภูเขา สวยงามากจริง ๆ

 

  

 

ก่อนเข้าที่พัก คณะของเราแวะสัมผัสธรรมชาติที่สะพานสีฟ้า ถ้ำนางฟ้า วังเวียง สะพานสีฟ้า ภาษาถิ่นเรียกว่า ขัวสีฟ้าถ้ำนอน เป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำซอง ที่จะพานักท่องเที่ยวไปยังถ้ำนางฟ้า ที่มีหินงอก หินย้อย ตามธรรมชาติมากมาย และกิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่ ได้แก่ ซิปไลน์ พายเรือคายัค และสำรวจถ้ำ ส่วนใครไม่ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็นั่งชิล จิบกาแฟเย็น ๆ ชื่นใจ ชมแม่น้ำซองไปเรื่อยก็แฮปปี้แล้วล่ะ

วันนี้เราเช็คอินกันที่ โรงแรมอมารี วังเวียง รร.ที่แวดล้อมด้วยภูเขางดงามเหมือนภาพวาด  วังเวียงเหมาะกับการมาท่องเที่ยวในช่วงต้น ๆ ฝนแบบนี้มาก ต้นไม้เขียว อากาศสบาย ๆ ฝนโปรยปราย ได้หนักมาก รับรู้ได้ถึงความสดชื่น สบายจริง ๆ ค่ำนี้เราปิดท้ายวันด้วยการรับประทานอาหารค่ำที่ M&M Rooftop Bar” ร้านอาหารรูฟท็อป ให้บริการด้วยเมนูอาหารที่คัดสรรเป็นอย่างดี พร้อมนั่งฟังเพลงชิล ๆ เคล้าวิวทิวเขา และแสงไฟของเมืองวังเวียง ด้วยความประทับใจ ก่อนแยกย้ายกันไปชาร์จพลังพร้อมลุยต่อในวันรุ่งขึ้น

 

  

 

 

 

เริ่มต้นเช้าวันที่สองในวังเวียง ด้วยสายฝนที่โปรยปราย เสมือนการประพรหมน้ำมนต์ ยิ่งทำให้บรรยากาศของป่าและขุนเขาวิจิตรตระการตามาก เช้านี้เราไปเช็คอินกันที่  “พูม่ายคาเฟ่” ร้านกาแฟ ราคาหลักสิบแต่วิวหลักล้าน คาเฟ่ตกแต่งในสไตล์ธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยวิวภูเขาล้อมรอบ 360 องศา พร้อมเมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย นั่งสบายๆหายใจทิ้งไปกับธรรมชาติ

จากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปเพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ “ร้านอาหารเวียงธารา” ตั้งอยู่ใน เวียงธารา วังเวียงรีสอร์ท ได้อิ่มอร่อยกับอาหารนานาชนิด พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และทุ่งนาอันเขียวขจี คณะของเรานั่งทอดอารมณ์กันที่ร้านอาหารเนินนานก่อนจะขยับพุงย้ายต่อไปยัง วัดสินไชยาราม ณ เมืองเฟือง ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหินสูงตระหง่าน โดยวัดแห่งนี้มีการสร้างวัดไปพร้อมกับการดูแลอนุรักษ์ป่าไม้ ฟื้นฟูสภาพป่าไม้ เป็น 1 ในพุทธอุทยาน ที่สำคัญใน สปป.ลาว และเป็นสถานที่เรียนรู้พุทธศาสนาและปฏิบัติธรรม รวมถึงเป็นจุดหมายของสายมูทั้งหลายที่มักจะมาขอพรจากพญานาคเพราะมีความเชื่อว่าที่วัดสินไชยารามแห่งนี้เชื่อมต่อกับคำชะโนด ในประเทศไทย สำหรับสายมูที่นับถือพญานาคต้องมาสัมผัสความงดงาม สงบและมีมนต์ขลังจากพลังงานบางอย่างที่วัดแห่งนี้

  

  

 

ก่อนเดินทางเข้าที่พักยังเมืองหลวงเวียงจันทน์ ยังได้เพลิดเพลินกับอาหารมื้อค่ำที่ร้านหมูกระทะฮิตติดลมบนของคนรักปิ้งย่างที่ร้าน “ซิ้นดาดโป๊ยเซียน” ที่คัดสรรมาแต่เนื้อคุณภาพดีมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ ก่อนเข้าเช็กอินกันที่ “โรงแรมเลอธาตุหลวงดอร์ บูทีคโฮเทล” (Le Thatluang D'oR Boutique Hotel) โรงแรมดีไซน์ สวยและตกแต่งในสไตล์ลักซูรี่ มีพื้นที่กว้างขวาง ห้องพักแต่ละห้องมีดไซน์ที่แตกต่างกันไป  ที่สำคัญกว้างขวาง อลังการเหมาะกับการพักผ่อนแบบครอบครัวมากที่เดียว

 

 

 

วันสุดท้ายของทริป หลังจากเช็กเอ๊าท์ที่โรงแรมแล้ว จึงได้แวะไปสักการะ “พระธาตุหลวงเวียงจันทน์” (Pha That Luang Vientiane) หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของสปป.ลาว องค์พระธาตุหลวงเวียงจันทน์นั้น มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยองค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร มีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า ด้านในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา

 

 

 

อาหารเที่ยงเรารับประทานที่ ร้านอาหารลาวเดิม (LaoDerm Restaurant) ร้านอาหารลาวแท้ ๆ ที่มีเมนูอาหารลาวแบบดั้งเดิมที่ดีที่สุดของเวียงจันทน์ เลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่สดใหม่สะอาด และยังคงสูตรดั้งเดิมที่สืบทอดมายาวนาน ที่ทุกคนในทริปติดใจในรสชาติอาหารที่กลมกล่อม แซ่บนำ ที่มาพร้อมกับการนำเสนอการจัดวางอาหารที่สวยงาม พร้อมแวะจิบกาแฟ เติมความหวานกันที่คาเฟ่สไตล์มินิมอลของเมืองวียงจันทน์ Au8ust The Living Factory กันอิ่มหนำ ก่อนเดินทางกลับสู่ประเทศไทย และปิดท้ายทริป “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads …ลุยท้าโลก” กันที่ร้าน ซาหมวย แอนด์ ซันส์ ในจังหวัดอุดรธานี อาหารอีสานฟิวชั่นที่การันตีความอร่อยด้วยมิชลินไกด์ 2023 มีเมนูแนะนำเป็นเมนูตามฤดูกาลอย่างจังโก้ เนื้อย่าง และไอศกรีมหมากกระบกช็อคโกแลตหนองคายกับกล้วยปิ้ง ด้วยจุดเด่นของเมนูอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น จากตลาดพื้นบ้าน ฟาร์มออร์แกนิก หรือแม้แต่ป่าในพื้นที่ เชฟใส่ใจในรายละเอียดอย่างยิ่ง ทั้งเทคนิคการปรุงและคุณสมบัติทางอาหารและยาของเครื่องปรุงแต่ละชนิด จึงมั่นใจได้ว่านอกจากอร่อยแล้ว แต่ละจานยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

 

 

 

การเดินทางไปกับ  NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs ในครั้งนี้ ได้ออกเดินทางแบบท้าทายขีดจำกัดของชีวิต พิชิตเส้นทางจากไทย สู่วังเวียง และเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นการขับรถผ่านชุมชน ที่มีความแออัดซึ่งเป็นเส้นทางในเมือง และเส้นทางด่วนจากเวียงจันทน์ ไปยังวังเวียง ขับสนุก ลุยท้าโลกไปทุกเส้นทางกับ NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs”ทะยานต่อ ให้โลกตาม” อีกขั้นแห่งปิกอัพ สปอร์ตออฟโรดเหนือระดับ แข็งแกร่ง ดุดัน ทรงพลังเต็มสมรรถนะออฟโรด จากภายนอกจรดภายในที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ครั้งแรกของวงการรถปิกอัพเมืองไทย มอบความแม่นยำและมั่นใจในการทำหน้าที่เสมือนดวงตาคู่อัจฉริยะ ตรวจจับวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำกว่า พร้อมเรดาร์ 2 จุดและเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน

 

 

 

ซึ่งอีซูซุได้ออกแบบให้ทุกระบบความปลอดภัยทำงานผสานร่วมกันเป็นหนึ่ง ให้ความมั่นใจในการเดินทางอาทิ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรฝัน ACC พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) โดยระบบจะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วให้คงที่ และจะช่วยควบคุมความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้จนถึงรถคันหน้าหยุดนิ่ง และยังมาพร้อมกับระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ที่คอยตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้าจากกล้องหน้าคู่ และแจ้งเตือนเมื่อสิ่งกีดขวางอยู่ในระยะกระชั้นชิดเกินไปจนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรกหลังสัญญาณเตือน โดยเทคโนโลยีเพื่อระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS สามารถช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดถึง 50% (ข้อมูลอ้างอิงจากสภาความปลอดภัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา : The National Safety Council, U.S.A.)

 

 

 

นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่สามารถลดอุบัติเหตุ โดยระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Warning with Autobrake ช่วยลดการชนท้ายรถคันหน้า 50%) นอกจากนี้  NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs  ยังมาพร้อมกับดีไซน์ดุดัน เท่ แกร่ง ทรงพลังด้วย Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคัน ที่กระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง ที่เปิดกระบะท้าย Fender Lip และ Robust Extender เพิ่มความดุดัน ทรงพลัง ในทุกมิติของรถ ให้พลังแรง ประหยัดน้ำมัน พร้อมลุยทุกที่ ด้วยเครื่องยนต์ Isuzu 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ระบบ Terrain Command สวิตช์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ ทำงานได้ฉับไว แม่นยำ เลือกการใช้งานให้เหมาะกับทุกสภาพถนนทั้ง 2H/4H และ 4L พร้อมสมรรถนะในการลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร ระบบ Electronic Diff-Lock ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ช่วยล็อกเฟืองท้ายให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลังด้านซ้ายและขวาเท่ากันเพื่อให้ผ่านอุปสรรคอย่างง่ายดาย ช่วงล่างแกร่งทน เกาะถนนเหนือชั้นด้วยโครงสร้างตัวถัง และแพลตฟอร์ม “ISUZU DYNAMIC DRIVE PLATFORM” ที่ออกแบบมิติฐานล้อ และช่วงล้อหน้า-หลัง เพื่อดุลยภาพในการขับขี่ทั้งขณะรถเปล่า และการบรรทุกหนัก 

สำหรับผู้ที่สนใจพบกับ NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai