มีโอกาสได้สัมผัส

Mercedes-Benz E 220 d AMG Line

พร้อม ๆ กับลูกค้าตัวจริง

 

ทดลองขับโดย ภัชรี เอกฉัตร์

 

Mercedes-Benz E-Class ยังคงเป็นรถยนต์รุ่นหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ในฐานะลูกค้าผู้ใช้จริงในเจน 10 แอบมองซ้าย มองขวา หลายเพลา เมื่อไหร่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าอย่างชั้นได้สัมผัสรถกะเค้าบ้าง อันนี้อิฉันก็พูดในฐานะลูกค้า ที่มีปัญญา สามารถซื้อหา รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ มาใช้อ่ะนะ ไม่ได้แซะหรือกระแหนะกระแหน ผู้ใดพูดเรื่องจริง ไม่พิงใคร เสียงก็ไม่ดังเท่าไหร่ แต่มีเพื่อนเชื่อในข้อมูลและประสบการณ์การใช้งาน จอง จัด ไป 2 คัน ก็ไม่ได้โม้อะไร แค่อยากให้สแกนกลุ่มเป้าหมายกันให้ชัด ๆ หน่อย จะได้เข้าถึงคนมีกำลังซื้อได้จริง ไม่ต้องตะโกน แหกปาก สาดน้ำลายแต่กลับขายไม่ได้เลย มันเศร้า...

 

 

The new E-Class นับเป็นยนตรกรรมที่ผสานผสานความมีระดับ ทั้งการออกแบบ เทคนิคที่ล้ำสมัย และความสะดวกสบายชั้นเยี่ยม มาพร้อมรหัสตัวถัง W214 ชูความเป็นเลิศของ Business Saloon สุดหรูที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิมในทุกองศา และขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์ทุกความทันสมัยภายใต้คอนเซ็ปต์ “EVOLVES WITH YOU” เปิดตัวในประเทศไทย 2 รุ่นด้วยกัน โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล “E 220 d AMG Line” และขุมพลัง Plug-in Hybrid “E 350 e AMG Dynamic”

 

 

รุ่นที่นำมาทดลองขับในครั้งนี้ เป็น Mercedes-Benz E 220 d AMG Line ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี มอบกำลังแรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบต่อนาที สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 7.6 วินาที ทำงานร่วมกับ 48V electrical system (ISG2) 23 แรงม้า 205 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) โดยรายละเอียดของพละกำลังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรุ่นใหม่หมดจรด จากการขับขี่จริงบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ให้ความรู้สึกที่พลุ่งพล่าน ตอบสนองเริ่ดประเสริฐศรี เหมาะกับวัยหมด ฮอร์โมนอย่างอิชั้นมาก เรียกมาเรียกมา ไม่ต้องรอให้เหนื่อยใจ เร่งแซงได้สบาย ไม่ต้องกังวลใจ เวลาเจอรถใหญ่ ๆ บนถนนสวน 2 เล่น อิชั้นเอาอยู่ค่ะ

 

 

ส่วนภายนอก โมเดลเชนจ์ ปรับใหม่เกือบทุกชิ้นของบอดี้ มาพร้อมดีไซน์การออกแบบรอบคันด้วย AMG Bodystyling ที่มอบความดุดันตามแบบฉบับของ AMG พร้อมระบบปิดประตูแบบ Soft Close ทางด้านของ E 220 d AMG Line มาพร้อมไฟหน้า LED high-performance ทำงานร่วมกับระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist มอบความสะดวกสบายด้วย KEYLESS-GO Comfort Package ที่สามารถควบคุมด้วยระบบดิจิทัลผ่านสมาร์ทโฟน ช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 19 นิ้ว ผสานการทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนแบบ AGILITY CONTROL ช่วยซับแรงกระแทกและทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น ซึ่งอิชั้นว่าดูด้วยสายตา เหมือนมันเล็กกว่า เจนเดิม ด้วยการออกแบบ ให้มีเหลี่ยมมุม โค้งเว้า ทำให้มีมิติเพิ่มขึ้น และดูสวยงามลงตัวมากกว่าเดิม เปรียบเสมือนสาวหุ่นสวย ที่เข้าฟิตเนสสม่ำเสมอ  

  

 

ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งแบบ AMG Interior Package ที่เน้นความสปอร์ตแต่ยังคงความหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์  ทำให้ภายในดูหรูหรา ลักชู อลังการดาวล้านดวง โดยเฉพาะระบบควบคุมทิศทางการขับขี่ พวงมาลัย Multifunction sports steering เสริมความแพง ด้วยเบาะหนังสีดำ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX เจเนอเรชั่นที่ 3 พร้อมกล้อง Selfie สำหรับการประชุมงานหรือเพิ่มความบันเทิง ติดตั้งจอ MBUX Superscreen ขนาดใหญ่พิเศษ 14.4 นิ้ว บริเวณแผงคอนโซลกลาง และจอขนาด 12.3 นิ้ว บริเวณผู้โดยสารตอนหน้า ให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างครบครัน โดยมีการปรับปรุงให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่ในมุมมองของอิชั้นรู้สึกมันให้มามากมาย ตาลาย คัลเลอร์ฟูลเกิ้น โดยเฉพาะกลางคืน เหมือนนั่งอยู่ในผับ ในบาร์ไม่ผิดเพี้ยน 555  

ในส่วนของระบบ AI ในการเรียนรู้และปรับฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของรถยนต์ให้เข้ากับพฤติกรรมและรสนิยมของผู้ขับขี่ ทั้งยังติดตั้งระบบปรับอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL ที่สามารถปรับทิศทางลมได้อย่างอิสระ และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่พร้อมจะมอบความสะดวกสบายอันเหนือระดับไว้อย่างเต็มพิกัด จัดว่าดี

 

 

ส่วนในด้านเทคโนโลยีและความบันเทิง E 220 d AMG Line โดดเด่นด้วยไฟเรืองแสง Ambient Lightning Plus กว่า 64 เฉดสี ที่จะเปลี่ยนบรรยากาศของห้องโดยสารได้อย่างรื่นรมย์  อันนี้เหมือนเดิมไม่แตกต่าง สุดท้ายคุณก็จะเลือกใช้อยู่ไม่กี่สี ที่โปรดปราน แต่ให้มาก็ดี คุ้มค่า หลากสีสัน ทั้งนี้ยังมีการติดตั้งระบบ MBUX Augmented Reality สําหรับแผนที่นําทาง อันนี้คือเหมาะได้ใช้งานจริงทุกคัน

ส่วนนี้ถือเป็นความพิเศษ สำหรับอิชั้นนะ ชอบระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 4D Surround Sound System พร้อมลำโพง 21 ตัว ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ฟังเสียงอย่างคมชัดสมจริงราวกับนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ และไฟรอบห้องโดยสารแบบ Active Ambient Lighting ที่สามารถปรับแสงสีในห้องโดยสารให้เป็นไปตามจังหวะเพลง ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความเพลิดเพลินในทุกอารมณ์ ทำให้ชั้นแหกปากร้องเพลงได้สบายใจ เพราะเสียงรอบทิศทาง ไม่ได้กระแทกเข้าหน้าแต่เพียงอย่างเดียว ทำให้เกิดอรรถรสมากยิ่งขึ้น เวลารถติดตอบโจทย์นะ ใครคิดไงไม่รู้แต่อิชั้นชอบมาก

 

 

นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัย Driving Assistance Package Plus ในรถยนต์อย่างครบครันตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist) ระบบพวงมาลัยช่วยผ่อนแรงหักหลบสิ่งกีดขวางระยะกระชั้นชิด (Evasive Steering Assist) ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist) เป็นต้น

Mercedes-benz E 220 d AMG Line เปิดราคาจำหน่าย 3,990,000 บาท ส่วนอีกรุ่นหนึ่งให้ความรู้สึกอย่างไร ไว้ได้มีโอกาสขับแล้วจะมาเหลาให้ฟังอีกสักรอบ ใครสนใจ อยากจะมีไว้ครอบครองสักคัน ก็ตรงดิ่งไป ที่โชว์รูมเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วประเทศไทย ได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องราคงราคา นโยบาย ROF ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เขาขายราคาเดียวทั่วประเทศจ้า

ก่อนจบคอมเม้นท์ทิ้งท้าย จากประสบการณ์ตรง เมอร์เซเดส-เบนซ์ เครื่องยนต์ ดีเซล ในหลาย ๆ รุ่น ให้อารมณ์ ความรู้สึกในการใช้งานดี ไม่ค่อยเกเร ปัญหาน้อย  และสำคัญประหยัดกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แน่นอน ถ้าไม่เชื่อลองซื้อไปใช้ได้ จะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องตรงประเด็นไม่ต้องเชื่อใคร นอกจากตัวคุณเอง ขอบคุณจ้า